คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 490/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แปลสัญญา ฎีกาอุทธรณ์ ปัญหาข้อกฎหมาย แปลเอกสารเป็นปัญหาข้อกฎหมาย

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์จ้างจำเลยเป็นทนายความปรากฏตามหนังสือจ้างว่าความลงวันที่ ๒๕ เมษายน แล ๓ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๕ ในที่สุดคดีโจทก์ชนะแลยึดทรัพย์ผู้แพ้คดี จำเลยเป็นผู้รับเงินที่ขายทรัพย์ได้ แล้วคืนให้โจทก์เพียง ๑๒๕ บาท เหลืออีก ๔๐๖ บาท ๖๐ สตางค์จำเลยไม่คืนให้ โดยจำเลยอ้างว่าหักเป็นค่าจ้าง โจทก์จึงฟ้องจำเลยเรียกเงินจำนวนที่ขาดนี้
ปรากฏว่าเมื่อเวลาจำเลยคืนเงิน ๑๒๕ บาทให้โจทก์พร้อมด้วยหนังสือสัญญาจ้างว่าความ ๒ ฉะบับนั้น จำเลยได้ทำเอกสารขึ้นฉะบับหนึ่งให้โจทก์ลงลายมือชื่อไว้มีใจความว่า โจทก์ไม่มีส่วนเรียกร้องเอาจากจำเลยแล้วแลโจทก์ขอรับรองต่อไปว่าหนังสือสัญญาไม่ว่าหนังสือใด ๆ ทำกันไว้ก่อนหนังสือนี้ไม่มีอยู่ที่จำเลย
ศาลล่างวินิจฉัยว่า เอกสารที่โจทก์ทำให้จำเลยเป็นแต่เพียงใบรับ เพราะข้อความได้มีขัดว่าที่โจทก์ไม่มีส่วนติดค้างนั้นเป็นอะไร หนังสือหรือเงิน จึงพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์บางส่วน
ศาลฎีกาเห็นว่าในเวลาที่ทำเอกสารกันนี้ คู่ความโต้เถียงกันเรื่องค่าจ้างว่าความ เพราะฉะนั้นจะแปลว่าเป็นใบรับสัญญาค่าจ้างว่าความไม่ได้ เพราะไม่มีกล่าวไว้เช่นนั้น แลเห็นว่าที่จำเลยถือว่าเป็นใบรับก็คงหมายถึงใบรับเงิน เพราะเวลานั้นจำเลยได้มอบเงินให้แก่โจทก์ไปพร้อมทั้งสัญญา จำเลยจึงเขียนหนังสือไว้ว่าไม่มีหนี้สินติดค้างกัน แลตอนท้ายแห่งหนังสือก็ปรากฏข้อความว่าหนังสือสัญญาไม่ว่าหนังสือใด ๆ ที่ทำกันไว้ก่อนหนังสือนี้ไม่มีอยู่ที่จำเลย จึงไม่มีทางคิดว่าส่วนติดค้างนั้นจะเป็นหนังสือจึงต้องฟังว่าที่ไม่มีส่วนติดค้างนั้นคือ เงิน โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องจากจำเลยได้อีก จึงพิพากษากลับศาลล่าง ให้ยกฟ้องโจทก์

Share