คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2483

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ไล่กระบือเข้าไปเหยียบย่ำต้นข้าวซึ่ง โจทก์ได้ปักดำไว้ในที่พิพาทนั้นย่อมมีผิดฐานทำให้เสียทรัพย์โดยไม่ต้องพิจารณาว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ใด จำเลยเข้าไปในที่วิวาทโดยเชื่อว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของตนโดยสุจริตนั้น ไม่เป็นผิดฐานบุกรุก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกไล่กระบือบุกรุกเข้าไปเหยียบย่ำต้นข้าวในนาของโจทก์ซึ่ง โจทก์ปักดำไว้เสียหาย ขอให้ลงโทษตาม กฎหมายลักษณอาญา มาตรา ๓๒๔,๓๒๗,๖๓ และ ๗๑
จำเลยให้การปฎิเสธต่อสู้ว่า นานี้เป็นของนายภู่จำเลย จำเลยต้อนกระบือเข้าย่ำเพื่อจะปลูกข้าว โจทก์แกล้งเอาข้าวกล้ามาปักดำเพื่อแย่งนานี้ จึงถูกกระบือเหยียบ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า โจทก์สืบไม่สมว่าเป็นนาของโจทก์ แม้ จำเลยจะรับว่าได้พากระบือเข้าเหยี่ยบย่ำต้นข้าวในนาก็ดีแต่จำเลยก็ถือว่าเป็นนาของจำเลย หาเป็นผิดทางอาญาไม่ จึง พิพากษายกฟ้อง
ศาลฎีกา เห็นพ้องด้วยศาลอุทธรณ์ว่าปัญหาที่ว่านารายนี้เป็นของโจทก์หรือ จำเลยนั้นไม่สำคัญ โจทก์เข้าปักกล้าดำนาในที่นี้ก็โดยเชื่อว่าเป็นที่นาของตน โจทก์ไม่มีเจตนาทุจริต จำเลยไม่มีอำสาจจะทำลายข้าวที่โจทก์ปลูกนั้นได้ หากจำเลยจะถือว่าเป็นที่นาของตนก็ขอบที่จะฟ้องร้องว่ากล่าวโจทก์ ส่วนข้อบุกรุกนั้นจำเลยเข้าไปโดยถือว่าเป็นที่นาของตนโดยสุจริต จึงไม่มีผิดฐานบุกรุก พิพากษากลับ คำพิพากษา ศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำเลยฐานทำให้เสียทรัพย์

Share