คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4899/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติ ญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ทวิ กำหนดระวางโทษปรับเป็นเงินสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วนั้นคำว่า “ค่าอากร” หมายถึง ค่าอากรในทางศุลกากรเท่านั้น หารวมถึงภาษีสรรพสามิต ภาษีมูลค่าเพิ่มอันเป็นภาษีฝ่ายสรรพากรด้วยไม่จึงจะนำภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มมารวมเป็นค่าอากรเพื่อคำนวณโทษปรับด้วยมิได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้ลงโทษปรับโดยให้ลงโทษจำคุกด้วย แต่ให้รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี เป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยให้หนักขึ้นโดยโจทก์มิได้อุทธรณ์เป็นการไม่ชอบ เมื่อเป็นกรณีที่ศาลมีคำสั่งริบของกลาง และไม่ปรากฏว่าของกลางที่ศาลสั่งริบนั้นไม่อาจขายได้ จึงต้องจ่ายรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้จับกุมร้อยละ 20 ของราคาของกลาง ตามพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ. 2489 มาตรา 8 วรรคสองหาใช่ร้อยละ 15 ของค่าปรับไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้มียาสูบต่างประเทศโดยมิได้ปิดแสตมป์ยาสูบจำนวน 40 ซอง รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 760 กรัม ซึ่งจะต้องปิดแสตมป์ยาสูบซองละ 16.50 บาท คิดเป็นเงินค่าแสตมป์ยาสูบที่จะต้องปิดทั้งสิ้น 660 บาทไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดต่อกฎหมายและจำเลยได้ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งยาสูบต่างประเทศที่ยังมิได้ปิดแสตมป์ยาสูบดังกล่าว อันจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นสินค้าที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้ามหรือข้อจำกัด จำนวน 40 ซองคิดราคาของ 721.98 บาท อากรขาเข้า 216.60 บาท ภาษีสรรพสามิต1,147.14 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 146 บาท รวมค่าภาษีอากร 1,509.74 บาทซึ่งเป็นของต้องห้ามไม่ให้นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 มาตรา 4, 19, 24,44, 49, 50 พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27, 27 ทวิพระราชบัญญัติ ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พ.ศ. 2489มาตรา 6, 7, 8 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 91 ริบของกลางและจ่ายเงินรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้จับตามกฎหมาย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาสูบพ.ศ. 2509 มาตรา 4, 19, 24, 44, 49, 50 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เรียงกระทงลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานมียาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบไว้ในความครอบครองปรับ 6,600 บาทฐานจำหน่ายยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบ ปรับ 22,646.10 บาท รวมปรับ29,246.10 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับจำเลย 14,623.05 บาท หากไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลางจ่ายรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้จับร้อยละ 15 ของเงินค่าปรับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ทวิ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 1 ปี ปรับ 8,926.88 บาทจำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 เดือน ปรับ 4,463.44 บาทไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยแต่เพียงว่า ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาโดยกำหนดโทษปรับจากราคาของรวมค่าภาษีอากรทั้งหมด จำนวน 2,231.72 บาท ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ทวิ กำหนดระวางโทษปรับเป็นเงินสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วนั้น คำว่า “ค่าอากร” ตามบทบัญญัติดังกล่าวหมายถึงค่าอากรในทางศุลกากรเท่านั้น หาได้หมายความรวมถึงภาษีสรรพสามิต ภาษีมูลค่าเพิ่มอันเป็นภาษีฝ่ายสรรพากรด้วยไม่ การที่ศาลอุทธรณ์นำภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มรวมเป็นค่าอากรเพื่อคำนวณโทษปรับจึงไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
อนึ่งคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยให้ลงโทษจำคุกด้วย แต่ให้รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี เป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยให้หนักขึ้นโดยโจทก์มิได้อุทธรณ์ เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง และที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ให้จ่ายรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้จับกุมร้อยละสิบห้าของค่าปรับนั้น เนื่องจากคดีนี้เป็นกรณีที่ศาลมีคำสั่งริบของกลาง และไม่ปรากฏว่าของกลางที่ศาลสั่งริบนั้นไม่อาจขายได้ จึงต้องจ่ายรางวัลร้อยละ 20 ของราคาของกลาง ตามพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ. 2489 มาตรา 8 วรรคสองศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้องเสียด้วย”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับจำเลย 3,754.32 บาท จำเลยให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงปรับ 1,877.16 บาท โดยไม่ลงโทษจำคุกและให้จ่ายรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้จับกุมร้อยละ 20 ของราคาของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share