คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องคดีอาญานั้น กฎหมายบังคับให้อ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่า การกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดเท่านั้น หาได้บัญญัติให้อ้างบทมาตราที่บัญญัติให้ริบของกลางด้วยไม่ ฉะนั้นแม้จะไม่ได้อ้างมา ศาลก็มีอำนาจริบได้ในเมื่อโจทก์มีคำขอไว้แล้ว
พ.ร.บ.มาตราชั่วตวงวัดได้มีบทบัญญัติในเรื่องการริบและการยึดไว้แล้ว ดังจะเห็นได้ตามมาตรา 24 และ 38 ย่อมเห็นเจตนารมย์ของ พ.ร.บ.นี้ได้ว่า ไม่ประสงค์ที่จะให้นำมาตรา 27,28 แห่งก.ม.ลักษระอาญามาใช้บังคับแก่กระทำผิดใด ๆ ตาม พ.ร.บ.นี้อีกในเมื่อการกระทำนั้น ๆ ไม่เป็นผิดตาม ก.ม.ลักษระอาญาด้วย
ในกรณีที่จำเลยมีเครื่องชั่งที่ไม่มีตราเครื่องหมายของเจ้าพนักงานไว้ในความครอบครองเพื่อใช้ในพาณิชกิจต่อเนื่องกับผู้อื่น และยังได้ใช้เครื่องชั่งเนื้อสุกรขายแก่ประชาชนอีกนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษปับจำเลยตาม พ.ร.บ.ชั่งตวงวัด 2466 มาตรา 31 แล้ว ยังสั่งให้โจทก์ส่งของกลางไปให้เจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ. 31 แล้ว ยังสั่งให้โจทก์ส่งของกลางไปให้เจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด 2466 มาตรา 24 ดำริว่า ควรจะจัดการกับเครื่องชั่งของกลางสถานใด แทนการสั่งยึดตามมาตรา 38 ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและจำเลยรับสารภาพว่า จำเลยมีเครื่องชั่งที่ไม่มีตราเครื่องหมายของเจ้าพนักงานไว้ในความครอบครองเพื่อใช้ในพาณิชกิจต่อเนื่องกับผู้อื่นและจำเลยได้บังอาจใช้เครื่องชั่งนั้น ชั่งเนื้อสุกรขายให้แก่ประชาชน โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยและขอให้ริบของกลาง แต่มิได้อ้างบทมาตราที่ให้ริบของกลางด้วย
ศาลชั้นต้นปรับจำเลย ๓๐ บาทโดยลดกึ่งแล้วตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด ๒๔๖๖ มาตรา ๓๑ ส่วนของกลางไม่ริบ ให้โจทก์ส่งไปให้เจ้าพนักงานตามมาตรา ๒๔ ดำริว่า ควรจะจัดการกับเครื่องชั่งของกลางสถานใด
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ศาลสั่งให้ริบได้ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๘ จึงพิพากษาแก้ให้ริบของกลาง
จำเลยฎีกาว่า โจทก์มิได้อ้างบทกฎหมายที่ให้ริบ ศาลไม่มีอำนจริบ เพราะเกินคำขอ
ศาลฎีกาเห็นว่า ป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๕๘ ข้อ ๖ บัญญํติว่าให้อ้างมาตราในกฎหมายที่บัญญัติว่า การกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดเท่านั้น หาได้บัญญัติได้ต้องอ้างบทมาตราที่กฎหมายบัญญัติให้ริบของกลางในคดีอาญาเหล่านั้นด้วยไม่ ศาลจึงมีอำนาจริบของกลางได้เพราะโจทก์มีคำขอไว้แล้ว
ส่วนปัญหาที่ว่า จะริบเครื่องชั่งของกลางในคดีนี้ได้หรือไม่นั้น ศาลฎีกาได้พิจารณาโดยที่ประชุมใหญ่แล้วเห็นว่า พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. ๒๔๖๖ ได้มีบทบัญญัติในเรื่องการริบเครื่องชั่งตวงวัดไว้แล้วตามมาตรา ๒๔ และยังได้บัญญัติถึงการยึดเครื่องชั่งตวงวัดไว้ในมาตรา ๓๘ อีกด้วยว่า เมื่อได้มีหรือเชื่อว่าได้มีการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.นี้เกิดขึ้นเนื่องด้วยเครื่องชั่งตวงวัดเครื่องวัดใด ๆ แล้ว ท่านว่าจะยึดสิ่งนั้น ๆ เสียก็ได้ ฉะนั้นจึงเป็นที่เห็นได้ว่า พ.ร.บ. มาตราชั่งตวงวัดนี้ ได้มีบทบัญญัติในเรื่องการริบและการยึดไว้แล้ว ย่อมเห็นเจตนารมย์ของ พ.ร.บ.นี้ได้ว่าไม่ประสงค์ที่จะให้นำมาตรา ๒๗,๒๘ ก.ม.ลักษณะอาญามาใช้บังคับแก่การกระทำผิดใด ๆ ตาม พ.ร.บ.นี้ได้อีก ในเมื่อการกระทำนั้น ๆ ไม่เป็นผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญาด้วย โดยเหตุนี้ ศาลนี้จึงเห็นว่าจะนำมาตรา ๒๗,๒๘ ก.ม.ลักษระอาญามาบังคับแก่การกระทำของจำเลยในคดีนี้ไม่ได้ และเห็นว่ายังไม่ควรสั่งยึดเครื่องชั่งตามมาตรา ๓๘
จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรร์

Share