แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พฤติการณ์ที่ถือว่าจำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้าย
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 2 ปี 4 เดือนและลงโทษกักกันอีก 3 ปีศาลอุทธรณ์แก้ให้ยกโทษกักกันเสียดังนี้ โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงในเรื่องกักกันได้
ย่อยาว
คดีมีปัญหาขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะจำเลยที่ 1 ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกมีกำหนด 2 ปี 4 เดือน ตามกฎหมายอาญา มาตรา 295, 163, 72 แล้วลงโทษกักกันอีก 3 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกโทษกักกัน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ 1 ต้องโทษมาแล้วรวม 7 เรื่องซึ่งมีลักทรัพย์ 3 เรื่องฐานรับของโจรเรื่องหนึ่ง แม้ว่าโทษเฉพาะฐานลักทรัพย์จะได้พ้นโทษมาเป็นเวลานานถึง 10 ปีก็ดีแต่ต่อมาจำเลยก็ต้องโทษฐานรับของโจรอีก พ้นโทษเมื่อวันที่22 กันยายน 2489 นี้เอง เมื่อพิเคราะห์ถึงความผิดในครั้งนี้ประกอบกับที่จำเลยมีอายุเพียง 37 ปี ได้กระทำผิดรวมถึง 8 ครั้งย่อมแสดงให้เห็นว่า จำเลยมีสันดานเป็นผู้ร้าย จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ลงโทษกักกันแก่จำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น