แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยถมดินให้โจทก์ โจทก์ให้จำเลยปลูกเรือนอยู่ในที่ดินแม้เป็นสิทธิเหนือพื้นดินไม่บริบูรณ์โดยไม่จดทะเบียน ก็เป็นบุคคลสิทธิผูกพันระหว่างกันเองได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อเรือนออกจากที่ดินของโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้สืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ที่จำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์ให้จำเลยถมดินจึงให้จำเลยปลูกบ้านอยู่อาศัยในที่ดินโจทก์มีกำหนดเวลา และหากโจทก์ต้องการที่ดินคืนก็จะจ่ายค่าถมดินและค่ารื้อถอนให้แก่จำเลยนั้น เป็นเรื่องจำเลยเถียงว่ามีข้อตกลงในรูปสัญญาต่างตอบแทนในการก่อตั้งสิทธิเหนือพื้นดินในที่ดินโจทก์ ศาลฎีกาเห็นว่า แม้สิทธิเหนือพื้นดินจะเป็นทรัพย์สิทธิและการได้มาของจำเลยจะไม่บริบูรณ์ เพราะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่ ดังบัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1299 วรรคแรกก็ตาม แต่ข้อตกลงที่จำเลยอ้างดังกล่าวก็เป็นบุคคลสิทธิที่บังคับโจทก์ซึ่งเป็นคู่สัญญาได้ ดังนั้นจึงต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไปว่ามีข้อตกลงผูกพันกัน และโจทก์ยังไม่มีสิทธิให้รื้อถอนเรือนดังที่จำเลยให้การหรือไม่อันจำเป็นต้องสืบพยานทั้งสองฝ่าย ที่โจทก์ฎีกาว่า ถ้ามีข้อตกลงกันจริง โจทก์ก็ชอบที่จะยกเลิกข้อตกลงเสียเมื่อใดก็ได้นั้นข้อนี้โจทก์มิได้กล่าวเรื่องยกเลิกข้อตกลงไว้ในคำฟ้อง จึงไม่เป็นประเด็นมาสู่ศาลฎีกา”
พิพากษายืน