คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 461/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การขีดฆ่าอากรแสตมป์โดยเพียงแต่ลงเส้นขีดคร่อมมิให้อากรแสตมป์ใช้การได้ต่อไป ก็รับฟังเป็นพะยานหลักฐานได้
ปัญหาว่า การขีดฆ่าอากรมแสตมป์จะถูกต้องใช้บังคับได้หรือไม่นั้น แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นต่อสู้และไม่มีอุทธรณ์ก็ตาม ศาลอุทธรณ์ย่อมยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
อ้างฎีกา +/2487

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ ๑ ใช้หนี้ในฐานะเป็นผู้กู้ ถ้าจำเลยที่ ๑ ไม่สามารถชำระก็ให้จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันชำระแทน
จำเลยที่ ๑ ให้การปฏิเสธ จำเลยที่ ๒ รับว่าได้ทำสัญญาค้ำประกันหนี้รายนี้จริง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า สัญญากู้ และสัญญาค้ำประกันมิได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์เท่านั้น ยังไม่นับเป็นการขีดฆ่า ตามประมวลรัษฎากร ม.๑๑๘ จึงใช้เป็นพะยานหลักฐานไม่ได้ และโจทก์จะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา ๖๕๓ พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เมื่อได้มีการขีดฆ่าอากรแสตมป์ด้วยการขีดคร่อมจนอากรแสตมป์นั้นใช้การไม่ได้แล้ว ก็นับว่ามีการขีดฆ่าแล้ว พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริงในสำนวน แล้วพิพากษาใหม่
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายหมายตามฎีกาของจำเลย ๖ ข้อ คือ
ข้อแรก จำเลยฎีกาว่า ปัญหาที่ว่า เอกสารที่โจทก์อ้างจะใช้เป็นพะยานหลักฐานตามประมวลรัษฎากรได้หรือไม่นั้นโจทก์มิได้อุทธรณ์คัดค้าน ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นวินิจฉัยเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นว่า กฎหมายห้ามรับฟังหรือไม่ ซึ่งศาลฎีกาเห็นว่าชอบแล้ว
ข้อสอง จำเลยฎีกาว่า การขีดเส้นคร่อมบนอากรแสตมป์ โดยไม่ลงวันเดือนปีกำกับนั้น ยังไม่เป็นการขึดฆ่าที่ถูกต้องนั้น ศาลฎีกามีความเห็นตามข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์
พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share