แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ประกาศให้บำเหน็จผู้นำจับผู้กระทำผิดค่าภาษีอากร ร.ศ.121
ค่าสินบนนำจับที่โจทก์จะขอให้ศาลบังคับให้จำเลยใช้ให้นั้นโจทก์เป็นแต่เพียงมีคำขอขึ้นมาในฟ้องเท่านั้นหาจำต้องอ้างบทกฎหมายขึ้นมาด้วยไม่
สินบนนำจับเป็นโทษหรือไม่
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยจับปลาด้วยเครื่องมือโดยมิได้รับอนุญาต โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.อากรค่าน้ำ แลขอให้จำเลยใช้ค่าสินบนที่จะจ่ายแก่ผู้นำจับตามสัญญา ๑๐ บาท อ้างประกาศให้สินบนนำจับผู้กระทำผิดต่อภาษีอากร ร.ศ.๑๒๑
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำเลยตามพ.ร.บ.อากรค่าน้ำ ส่วนข้อที่ขอให้ใช้ค่านำจับให้ยกเสีย เพราะไม่มีระบุไว้ในประกาศที่โจทก์ขอ
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าแทนที่โจทก์จะอ้าง ม.๒๐ แห่งพ.ร.บ.อากรค่าน้ำ โจทก์ไปอ้างประกาศให้บำเหน็จผู้นำจับผู้กระทำผิดต่อภาษีอากร ซึ่งไม่กินความถึงอากรค่าน้ำเป็นการอ้างบทกฎหมายผิด ศาลบังคับจำเลยได้ตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.๑๙๒ จึงให้จำเลยช่วยกันใช้ค่านำจับอีก ๑๐ บาท
จำเลยฎีกาว่าคดีนี้ไม่ใช่เป็นกายอ้างบทมาตราผิด เป็นการอ้างกฎหมายผิดทั้งฉะบับ จะยกมาตรา ๑๙๒ มาใช้บังคับไม่ได้
ศาลฎีกาเห็นว่าในเรื่องสินบนนำจับโจทก์ ไม่จำเป็นต้องอ้างบทกฎหมายแต่อย่างใด การที่โจทก์อ้างบทกฎหมายผิดหรือไม่ จึงไม่สำคัญ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว จึงพิพากษายืนตาม