แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เช่าบ้านอยู่แล้ว แบ่งตอน 1 ให้คนอื่นเช่าช่วงนั้นย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน ถ้าการเช่าช่วงนั้นทำโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่าย่อมฟ้องขับไล่ได้
ย่อยาว
คดีนี้ได้ความว่าจำเลยเช่าตึกจากโจทก์มีกำหนด ๑ ปีแต่ ๑ มกราคม ๒๔๘๗ ค่าเช่า ๔๐ บาทต่อเดือน ต่อมาจำเลยให้ผู้อื่นเช่าช่วงเสียส่วนหนึ่งค่าเช่าเดือนละ ๕๐ บาท จำเลยอยู่ส่วนหนึ่งอันเป็นผิดต่อสัญญาเช่า เพราะไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ก่อนโจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าให้จำเลยออกจากห้องเช่า ๑ เดือนแล้วจำเลยไม่ออก จำเลยต่อสู้ว่าสัญญาเช่ารายนี้อยู่ในความควบคุมแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน ๒๔๘๖ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่
ศาลชั้นต้นเห็นว่าการที่จำเลยนำห้องไปให้เช่าช่วงเป็นการหากำไร จึงผิดความประสงค์ของพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่ายิ่งมุ่งหมายช่วยเหลือคนจนที่ไม่มีที่อยู่ กรณีจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่านั้น ให้ขับไล่จำเลย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าสัญญาเช่าได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน ๒๔๘๖ ม.๑๔ จึงให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน ๒๔๘๖ มุ่งประสงค์ช่วยผู้เช่าที่มีรายได้น้อยไม่มีที่อยู่อาศัยโดยไม่ต้องถูกขึ้นค่าเช่า หาได้มุ่งหมายจะช่วยผู้เช่าหากำไรโดยให้เช่าช่วงเช่นนั้นไม่+++ให้เช่าช่วงเพื่อหากำไร ก็ทำนองเดียวกับผู้เช่าให้ที่เช่าในการค้า จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัตินี้ และเมื่อทำไปให้เช่าช่วงโดยเจ้าของไม่ยินยอมตามและประมวลแพ่งพาณิช ม.๕๔๔ โจทก์จึงฟ้องขับไล่จำเลยได้พิพากษายืนศาลชั้นต้น