คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อย่างไรจึงจะเรียกว่าเป็นไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือว่า เป็นไม้แปรรูปตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 4(4) วรรคหนึ่ง
ในกรณีที่โจทก์อ้างผู้ชำนาญการพิเศษมาเป็นพยานเพื่อให้เบิกความประกอบรายงานการตรวจพิสูจน์ไม้ของกลางในคดีอาญานั้นไม่จำต้องส่งสำเนารายงานการตรวจพิสูจน์นั้นให้จำเลยทราบล่วงหน้า 3 วัน ก่อนเบิกความ เพราะมิใช่กรณีที่ศาลสั่งให้ผู้ชำนาญการพิเศษทำความเห็นเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 243 วรรคสอง

ย่อยาว

คดีมีปัญหาเกี่ยวกับสภาพของไม้ของกลางที่จับได้จากจำเลยว่าเป็นไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือว่าเป็นไม้แปรรูปตามความในมาตรา 4(4) วรรค 1 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สภาพของไม้ของกลางที่ถูกตีเป็นฝาครัวนั้นปรากฏว่าแต่ละด้านถูกตีไว้ไม่เป็นระเบียบอย่างฝาบ้านทั่วไป เช่น ตอนบนตีทับกัน ตอนล่างตีเรียงแผ่นแต่ละแผ่นก็ห่างกัน บางแห่งเรียงทับซ้อนกันเกือบครึ่งแผ่นทุกแผ่น ตรงกลางมีช่องโหว่คล้ายไม้ตรงนั้นหลุดล่วงไป ส่วนไม้กระดานที่อยู่บนขื่อก็วางไว้เฉย ๆ มิได้ตอกตะปูติดเป็นเพดานไม้เสาก็กองไว้เฉย ๆ สภาพเช่นนี้มีลักษณะเป็นการเก็บไม้ไว้ชั่วคราว หาใช่ไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างไม่ จึงถือเป็นไม้แปรรูปตามมาตรา 4(4) วรรค 1 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484

ส่วนปัญหาที่ว่า โจทก์จะต้องส่งสำเนารายงานการตรวจพิสูจน์ไม้ของกลางให้จำเลยทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วันก่อนวันเบิกความหรือไม่นั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่านายสุนทรพยานได้มาเบิกความในศาลโดยโจทก์อ้างมาในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญของศาลในการตรวจพิสูจน์เนื้อไม้ ศาลมิได้สั่งให้พยานทำความเห็นเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 243 วรรค 2 จึงไม่ต้องส่งสำเนาหนังสือการตรวจพิสูจน์ไม้ของกลางแก่จำเลยให้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วันก่อนวันเบิกความ

ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยให้ลงโทษจำเลยไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share