คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยนั่งทุบใบจอบอยู่ในบริเวณบ้านของจำเลยดี ๆ ผู้ตายเมาสุรามาท้าทายจำเลย เตะจำเลยและใช้เหล็กแหลมแทงจำเลยถึง 2 ครั้ง แม้จะไม่ถูก ผู้ตายยังไล่ตามแทงติดตัวอยู่ จำเลยจึงใช้จอบซึ่งถืออยู่ในมือฟันผู้ตายไป 2 ที ดังนี้ จึงถือว่าเป็นการกระทำเพื่อป้องกันชีวิตของจำเลย อันเป็นการป้องกันสิทธิของจำเลยจากภยันตรายที่ผู้ตายก่อขึ้นพอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงยังไม่ควรมีความผิด

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจใช้จอบขุดดินเป็นอาวุธทุบตีทำร้ายนายตา สาอุต จนล้มแล้วฟันซ้ำหลายครั้ง เป็นเหตุให้นายตาถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ และริบจอบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยโดยฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้ใช้จอบของกลางฟันผู้ตายถึงแก่ความตายจริง เนื่องจากผู้ตายได้ก่อเรื่องและแทงจำเลยด้วยเหล็กแหลมก่อน การที่จำเลยฟันผู้ตายด้วยจอบ จึงเป็นการป้องกันชีวิตของจำเลยพอสมควรแก่เหตุ จำเลยไม่ควรต้องรับผิดตามกฎหมาย พิพากษาให้ยกฟ้อง ปล่อยจำเลย จอบ เหล็กแหลม ของกลางริบ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ จำคุกจำเลย ๑๕ ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยนั่งทุบใบจอบอยู่ในบริเวณบ้านของจำเลยดี ๆ ผู้ตายเมาสุรามาท้าทายจำเลย เตะจำเลยและใช้เหล็กแหลมแทงจำเลยถึง ๒ ครั้ง แม้จะไม่ถูก แต่จำเลยก็ไม่มีทางจะหลีกเลี่ยงให้พ้นภยันตรายได้ เพราะผู้ตายยังไล่ตามแทงติดตัวอยู่ ซึ่งหากแทงถูกที่สำคัญ ก็อาจทำให้ตายได้ ดังนี้ การที่จำเลยใช้จอบซึ่งจำเลยถืออยู่ในมือฟันผู้ตายไป ๒ ที จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันชีวิตของจำเลย แม้จะฟันครั้งที่สองเมื่อผู้ตายล้มแล้ว ก็เป็นการกระทำที่กระชั้นชิดติดต่อกันยากที่จำเลยจะยับยั้งได้ เพราะไม่อาจคาดหมายได้ว่า ผู้ตายจะลุกขึ้นทำร้ายจำเลยได้อีกหรือไม่ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันสิทธิของจำเลยจากภยันตรายที่ผู้ตายก่อขึ้นพอสมควรแก่เหตุ จำเลยไม่ควรมีความผิด
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share