คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 44/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ลูกหนี้นำเช็คไปทำสัญญาขายลดเช็คแลกเงินสดกับธนาคารเจ้าหนี้มีข้อสัญญาว่า ถ้าธนาคารเจ้าหนี้ไม่ได้รับชำระเงินด้วยเหตุใด ๆ ลูกหนี้ยอมใช้เงินดังกล่าวให้พร้อมดอกเบี้ย ลูกหนี้จึงต้องผูกพันรับผิดตามสัญญาขายลดเช็คซึ่งบังคับกันได้อีกส่วนหนึ่งต่างหากจากความรับผิดตามเช็คเมื่อธนาคารเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายโดยอาศัยความรับผิดตามสัญญาขายลดเช็คดังกล่าวมิใช่ในฐานะธนาคารเจ้าหนี้เป็นผู้ทรงเช็คสิทธิเรียกร้องของธนาคารเจ้าหนี้ตามสัญญาขายลดเช็ค จึงมีอายุความ 10 ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด ธนาคารกรุงเทพ จำกัด ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี กับหนี้ตามสัญญาขายลดเช็ค ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ได้รับชำระหนี้เฉพาะหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ได้รับชำระหนี้ตามสัญญาขายลดเช็คด้วย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกาว่า ลูกหนี้เป็นหนี้ในการสั่งจ่ายเช็ค 7 ฉบับต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้ตามเช็คโดยตรงอยู่แล้ว สัญญาขายลดเช็คทำขึ้นเพียงแต่รับรองความผูกพันกันตามเช็คเท่านั้น อายุความเรื่องนี้ตกอยู่ภายใต้บทบัญญัติเรื่องตั๋วเงินโดยไม่จำต้องคำนึงถึงสัญญาขายลดเช็ค ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงปรากฏตามทางสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่าลูกหนี้นำเช็ค 7 ฉบับไปขายลดเช็คแลกเงินสดจากธนาคารเจ้าหนี้ แล้วทำสัญญาขายลดเช็คให้ธนาคารเจ้าหนี้ไว้เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2516 มีข้อสัญญาว่า ถ้าธนาคารเจ้าหนี้ไม่ได้รับชำระเงินด้วยเหตุใด ๆ ลูกหนี้ยอมใช้เงินจำนวน 322,865 บาท 80 สตางค์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 14 ต่อปี ลูกหนี้จึงต้องผูกพันรับผิดตามสัญญาขายลดเช็คซึ่งบังคับกันได้อีกส่วนหนึ่งต่างหากจากความรับผิดตามเช็ค ธนาคารเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้โดยอาศัยความรับผิดตามสัญญาขายลดเช็คฉบับลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2516 แสดงเช็คทั้ง 7 ฉบับเป็นหลักฐานประกอบหนี้ในสัญญาขายลดเช็ค หาใช่ในฐานะธนาคารเจ้าหนี้เป็นผู้ทรงเช็ค 7 ฉบับนั้นไม่ สิทธิเรียกร้องของธนาคารเจ้าหนี้ตามสัญญาขายลดเช็คมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 หนี้ตามสัญญาขายลดเช็คที่ธนาคารเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ยังไม่ขาดอายุความ”

พิพากษายืน

Share