แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 259 ซึ่งอยู่ในภาค 4ลักษณะ 1 ให้นำบทบัญญัติลักษณะ 2 ว่าด้วยการบังคับคดีมาใช้บังคับแก่วิธีการชั่วคราวที่ศาลสั่งตามที่กล่าวไว้ในลักษณะนี้โดยอนุโลมแสดงว่ากรณีมีการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาก็ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกับกรณีมีการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของจำเลยเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง ซึ่งต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี ตามที่บทบัญญัติไว้ในตาราง 5 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และมาตรา 149 วรรคแรกเมื่อโจทก์ดำเนินการร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ของจำเลยไว้เป็นการชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ถือว่าโจทก์ดำเนินกระบวนพิจารณาตามมาตรานี้แล้ว แม้ต่อมาโจทก์จำเลยจะทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันและโจทก์ไม่ได้รับประโยชน์จากการยึดทรัพย์ของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา โจทก์ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีร้อยละ 3 ครึ่งของราคาทรัพย์ที่ยึด เงินประกันค่าเสียหายที่โจทก์วางต่อศาลชั้นต้นเป็นเงินประกันค่าสินไหมทดแทนที่จำเลยจะได้รับความเสียหาย แม้จำเลยไม่ได้รับความเสียหาย แต่เมื่อโจทก์มีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี และศาลชั้นต้นได้แจ้งคำสั่งให้โจทก์นำเงินมาชำระต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีซึ่งโจทก์ก็ทราบคำสั่งแล้ว แต่ก็มิได้นำเงินมาชำระ ศาลชั้นต้นมีอำนาจที่จะไม่คืนเงินที่โจทก์วางไว้เป็นประกันค่าเสียหายจนกว่าโจทก์จะนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระแก่เจ้าพนักงานบังคับคดี ถ้าหากในที่สุดโจทก์ไม่นำเงินค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีมาชำระและไม่มีทรัพย์สินที่จะยึดมาชำระค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี ศาลชั้นต้นก็เบิกเงินค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวมาชำระค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีได้
ย่อยาว
มูลกรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องหย่าจำเลย และขอแบ่งสินสมรสก่อนจำเลยยื่นคำให้การ โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ยึดและอายัดทรัพย์สินสมรสก่อนมีคำพิพากษา ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินสมรสตามคำร้องขอไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา โดยให้โจทก์วางเงินประกัน 5,000 บาท โจทก์วางเงินประกันตามคำสั่งศาลชั้นต้นศาลชั้นต้นออกหมายยึดทรัพย์ชั่วคราว และโจทก์ได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์สินของจำเลยไว้ชั่วคราวแล้ว ระหว่างพิจารณาโจทก์จำเลยประนีประนอมยอมความกัน ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ต่อมาโจทก์ยื่นคำแถลงขอรับเงินประกันที่โจทก์วางไว้ต่อศาลดังกล่าวคืน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำเลยชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ซึ่งโจทก์กับจำเลยยอมความกันแล้ว โจทก์จึงต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีเสียก่อนจึงยังไม่อนุญาตให้คืนเงินประกันจำนวนนี้ ยกคำแถลง และให้โจทก์มาดำเนินการชำระค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีต่อไปภายในกำหนด30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 259 ซึ่งอยู่ในภาค 4 ลักษณะ 1 ที่ว่าด้วยวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาบัญญัติว่า ให้นำบทบัญญัติลักษณะ 2 แห่งภาคนี้ว่าด้วยการบังคับคดีมาใช้บังคับแก่วิธีการชั่วคราวที่ศาลสั่งตามที่กล่าวไว้ในลักษณะนี้โดยอนุโลม ตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ากรณีที่มีการยึดหรืออายัดทรัพย์ของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาก็ต้องถือปฏิบัติเช่นเดียวกับกรณีที่มีการยึดหรืออายัดทรัพย์ของจำเลยเพื่อการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง ซึ่งจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีตามที่บัญญัติไว้ในตาราง 5 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 149 วรรคแรก บัญญัติว่า ค่าธรรมเนียมศาลในการดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างอื่น ตามที่ระบุไว้ในตารางท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งนั้น ให้คู่ความผู้ดำเนินกระบวนพิจารณานั้น ๆ เป็นผู้ชำระ ดังนั้น เมื่อโจทก์เป็นผู้ดำเนินการร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาถือได้ว่าโจทก์ดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างอื่นตามมาตรานี้แล้วแม้ว่าต่อมาโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน และโจทก์ไม่ได้รับประโยชน์จากการยึดทรัพย์ของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาโจทก์ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีตามที่บัญญัติไว้ในตาราง 5 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งกรณีที่ยึดทรัพย์แล้วไม่มีการขายจะต้องเสียร้อยละ 3 ครึ่งของราคาทรัพย์ที่ยึดฎีกาข้อนี้ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
ส่วนข้อที่โจทก์ฎีกาว่า เงินค่าประกันค่าเสียหายจำนวน5,000 บาท ที่โจทก์วางศาลตามคำสั่งศาลชั้นต้น เป็นเงินประกันสำหรับค่าสินไหมทดแทนที่จำเลยอาจได้รับความเสียหาย เมื่อการยึดทรัพย์รายนี้มิได้ก่อความเสียหายแก่จำเลย ศาลชั้นต้นจึงต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้โจทก์นั้น เห็นว่า แม้เงินจำนวนดังกล่าวศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์วางไว้เพื่อเป็นประกันค่าเสียหายในการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์ของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาและจำเลยมิได้รับความเสียหายก็ตาม แต่เมื่อโจทก์มีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีดังที่กล่าวมาแล้วเป็นเงินจำนวน20,370 บาท และศาลชั้นต้นได้แจ้งคำสั่งให้โจทก์นำเงินจำนวนดังกล่าวมาชำระต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง ซึ่งโจทก์ได้ทราบคำสั่งดังกล่าวแล้วแต่ก็มิได้นำเงินมาชำระเช่นนี้ ศาลชั้นต้นก็มีอำนาจที่จะไม่คืนเงินที่โจทก์วางไว้เป็นประกันค่าเสียหายจำนวน 5,000 บาท ให้แก่โจทก์ จนกว่าโจทก์จะนำเงินค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีจำนวน 20,370 บาท มาชำระแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ ทั้งนี้ถ้าหากในที่สุดโจทก์ไม่นำเงินค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีมาชำระและไม่มีทรัพย์สินที่จะยึดมาชำระค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี ศาลชั้นต้นจะได้เบิกเงินจำนวน 5,000 บาท มาชำระค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นเดียวกัน”
พิพากษายืน