แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำให้การซึ่งฟ้องแย้งขอให้หักเงินค่าใช้จ่ายหลายประเภทและจำนวนหลายปีนั้นให้แสดงรายการให้ชัดว่าอย่างไหน ปีไหน เป็นเงินเท่าใด มิฉะนั้นเป็นการเคลือบคลุม ศาลสั่งในวันชี้สองสถานว่าเป็นฟ้องแย้งที่เคลือบคลุม ไม่มีประเด็นสืบ
คำให้การในคดีแพ่งที่เคลือบคลุมนั้น แม้จะไม่มีฟ้องแย้งรวมอยู่ด้วย จำเลยก็ไม่มีประเด็นจะสืบ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าเช่าที่นางเฮียะและจำเลยเก็บตั้งแต่เดือนมีนาคม ๒๔๘๗ ถึงมกราคม ๒๔๙๑ เป็นเงิน ๗ฅ๓๘๗ บาทเศษ โดยยอมเสียค่าป่วยการให้จำเลยร้อยละ ๕ จำเลยให้การว่าในระยะเวลาที่เรียกร้องเก็บคาเช่าได้เพียง ๔,๙๓๑ บาท ซึ่งยังมิได้ฟ้องเรียกเงินค่าก่อสร้างซ่อมแซม ค่าบำรุงสถานที่ ค่าภาษีโรงเรือน ค่าใบเสร็จอากรแสตมป์ และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดแต่ปี ๒๔๗๓ ถึง ๒๔๙๑ เป็นเงิน ๘,๔๘๑ บาทเศษ ซึ่งจำเลยทดรองไป หักจากค่าเช่าที่เก็บได้แล้ว โจทก์จะต้องชำระอีก ๓,๔๘๗ บาทเศษ จึงฟ้องแย้งขอให้โจทก์ชำระโจทก์แก้ว่า ฟ้องแย้งเคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นชี้สองสถานว่า ฟ้องแย้งมิได้แยกจำนวนเงินเป็นรายการว่า อย่างไหน เท่าไร เมื่อไร ไม่สามารถที่โจทก์จะให้การแก้ได้ ฟ้องแย้งเคลือบคลุมไม่มีประเด็นจะนำสืบ คงเหลือประเด็นตามฟ้อง ที่จำเลยว่าเก็บไม่ถึงนั้น โจทก์รับสืบก่อน ในวันพิจารณาโจทก์รับว่าจำนวนเงินค่าเช่าที่จำเลยเก็บไปมีเพียง ๔,๙๓๑ บาทเศษและยอมหักค่าเปอร์เซนต์ร้อยละ ๕ จำเลยขอให้หักภาษีกับค่าซ่อมแซม ศาลชั้นต้นงดสืบพยานพิพากษาว่า ค่าภาษีและค่าซ่อมแซมที่จำเลยเรียกร้องนั้นเคลือบคลุม ให้จำเลยชำระเงิน ๔,๙๓๑ บาทเศษ หักร้อยละ ๕ แล้วคงชำระ ๔,๖๘๔ บาทเศษพร้อมดอกเบี้ย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นชี้สองสถานและไม่ยอมให้จำเลยนำสืบเพื่อขอหักค่าภาษีและค่าซ่อมแซมนั้นชอบแล้ว และเห็นว่า การยื่นคำให้การนั้นตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๑๗๗ วรรค ๒ บังคับให้แสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่า จะรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วน รวมทั้งเหตุแห่งการนั้น คดีนี้คำให้การจำเลยมิได้แสดงให้เห็นชัดแจ้งว่า จำเลยมีสิทธิหักเงินจากโจทก์สำหรับค่าภาษีและค่าซ่อมแซมเป็นรายการยอ่างไร สำหรับปีไหน เป็นเงินเท่าไร คำให้การจำเลยนี้แม้จะไม่ถือว่า มีฟ้องแย้งรวมอยู่ด้วย จำเลยก็ไม่มีประเด็นจะนำสืบถึงจำนวนเงินเหล่านี้
พิพากษายืน