คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4334/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นปรากฎว่าในวันนัดสืบพยานโจทก์จำเลยได้เสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ฟ้องแย้งโดยตีราคาที่ดินพิพาท32,000บาทศาลชั้นต้นสอบโจทก์แล้วโจทก์ไม่ค้านราคานี้ประกอบกับเมื่อโจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์เพราะคดีมีทุนทรัพย์พิพาทชั้นอุทธรณ์ไม่เกินห้าหมื่นบาทและเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงศาลอุทธรณ์ก็ได้มีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์ยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นคำสั่งศาลอุทธรณ์ดังกล่าวจึงเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา236โจทก์จะมายื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นตีราคาที่ดินพิพาทให้สูงขึ้นเพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาต่อไปหาได้ไม่

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท ห้ามโจทก์และบริวารเข้าเกี่ยวข้อง โจทก์อุทธรณ์ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์เพราะเป็นคดีที่มีจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นอุทธรณ์ไม่เกินห้าหมื่นบาทและเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีคำสั่งให้ยกคำร้อง โจทก์ยื่นคำร้องฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 2 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้องเพราะคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 2 เป็นที่สุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236วรรคหนึ่ง
โจทก์ยื่นคำร้องลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2537 ขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาใหม่เฉพาะจำนวนทุนทรัพย์ที่ดินพิพาท โดยอ้างว่าที่ดินพิพาทมีราคาเกินกว่า 200,000 บาท
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์แถลงไม่ค้านจำนวนทุนทรัพย์ที่ดินพิพาทตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 19 มีนาคม 2535 กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงจำนวนทุนทรัพย์ที่ดินพิพาท และไม่มีเหตุให้พิจารณาใหม่ให้ยกคำร้อง
โจทก์ อุทธรณ์ คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาขอให้ศาลฎีกาพิพากษาให้ศาลชั้นต้นตีราคาที่ดินพิพาทสูงขึ้นให้เหมาะสมตามความเป็นจริงไม่น้อยว่า 246,000 บาท เพื่อโจทก์จะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาต่อไปนั้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นลงวันที่19 มีนาคม 2535 ปรากฎว่าในวันนัดสืบพยานโจทก์จำเลยได้เสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ฟ้องแย้งโดยตีราคาที่ดินพิพาท 32,000 บาท ศาลชั้นต้นสอบโจทก์แล้ว โจทก์ไม่ค้านราคานี้ ประกอบกับเมื่อโจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์ของโจทก์เพราะคดีมีทุนทรัพย์พิพาทชั้นอุทธรณ์ไม่เกินห้าหมื่นบาท และเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ก็ได้มีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์ยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้น คำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 2 ดังกล่าวจึงเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 โจทก์จะมายื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นตีราคาที่ดินพิพาทให้สูงขึ้นเพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาต่อไปหาได้ไม่
พิพากษายืน

Share