แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 43 ประกอบกับมาตรา 44 วรรค 2 อำนาจของพนักงานอัยการที่จะเรียกทรัพย์สิน หรือราคาแทนผู้เสียหายในคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ ย่อมเป็นส่วนหนึ่งแห่งคดีอาญา และอำนาจการพิพากษาในส่วนเรียกทรัพย์สินหรือราคา ก็เป็นส่วนหนึ่งแห่งคดีอาญา เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานยักยอกดังที่โจทก์ฟ้อง อำนาจของพนักงานอัยการที่จะเรียกทรัพย์สินหรือราคาแทนผู้เสียหายตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 43 ย่อมสิ้นไป ศาลจึงไม่มีอำนาจที่จะพิพากษาให้คืน หรือใช้ราคาทรัพย์ได้
(ถูก 1039/2516 ประชุมใหญ่ ทับเสียแล้ว)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้รับอำนาจจากนางดวงจันทร์ วงศ์เสน ฯลฯ ให้เป็นผู้รับเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ข้าราชการครูของนายหอมสามีนางดวงจันทร์ จากแผนกศึกษาธิการจังหวัดอุบลราชธานี จำเลยได้รับเงิน ๑๓,๕๙๕.๑๐ บาท ของผู้เสียหายไว้แล้วเมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๑๓ ต่อมาจำเลยซึ่งเป็นผู้ครอบครองทรัพย์ดังกล่าวได้เบียดบังยักยอกเอาเงินดังกล่าวทั้งหมดไป เป็นของจำเลยโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒ ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ๑๓,๕๙๕.๑๐ บาท แก่เจ้าทรัพย์
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเชื่อว่าเงินที่ผู้เสียหายมอบให้จำเลยรับจากแผนกศึกษาธิการ ฯ เหลืออยู่ที่จำเลย ๓,๑๐๕.๑๐ บาท จำเลยยักยอกเงินจำนวนนี้ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน ๓,๑๐๕.๑๐ บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องในความผิดส่วนอาญา พิพากษายืนในส่วนที่ให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน ๓,๑๐๕.๑๐ บาท แก่ผู้เสียหาย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ยอดเงินคงเหลือที่จำเลยเพียง ๓,๑๐๕.๑๐ บาท เป็นเงินที่จำเลย บังคับให้ผู้เสียหายไม่ครบเท่านั้น พฤติการณ์ของจำเลยไม่เป็นการกระทำโดยทุจริต ไม่เป็นความผิดอาญาฐานยักยอก เงินที่เกี่ยวกันกันอยู่ก็เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายจะเรียกร้องเอาแก่จำเลยในทางแพ่ง อนึ่ง ศาลฎีกาเห็นว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๔๓ ประกอบกับมาตรา ๔๔ วรรค ๒ อำนาจ ของพนักงานอัยการที่จะเรียกทรัพย์สิน หรือราคาแทนผู้เสียหายในคดีอาญาที่พนักงานอัยการที่โจทก์ ย่อมเป็นส่วนหนึ่งแห่งคดีอาญา และอำนาจการพิพากษาในส่วนเรียกทรัพย์สิน หรือราคา ก็เป็นส่วนหนึ่งแห่งคดีอาญา เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานยักยอกดังที่โจทก์ฟ้อง อำนาจของพนังงานอัยการที่จะเรียกทรัพย์สิน หรือราคาแทนผู้เสียหายตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๔๓ ย่อมสิ้นไป ศาลจึงไม่มีอำนาจที่จะพิพากษาให้คืน หรือใช้ราคาทรัพย์สินได้
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นว่า ให้ยกคำพิพากษาในส่วนที่ให้จำเลยคืน หรือใช้เงิน ๓,๑๐๕.๑๐ บาทเสีย แต่ไม่ตัดสิทธิผู้เสียหายที่จะฟ้องเรียกร้องเอาแก่จำเลยในทางแพ่ง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์