คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 421/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พฤตติการณ์ที่ถือว่า ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหาย จำเลยให้การต่อสู้คดีหลายประการ และตัดฟ้องว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม โดยตอนต้นกล่าวหาว่า จำเลยกระทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ แต่ตอนท้ายว่าไม่ได้รับความคุ้มครอง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ ศาลชั้นต้นเห็นว่าฟ้องเคลือบคลุม พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องโจทก์บรรยายข้อเท็จจริงตั้งแต่สัญญาเช่าเดิมกับนายเหรียญ ต่อมาถึงนายเจริญตลอดจนกระทั่งถึงตัวจำเลยเข้าอยู่ในห้องพิพาท อันเป็นกรณีพิพาทในคดีนี้ โดยยืนยันว่าจำเลยเข้าอยู่โดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ แม้จะอ้างสิทธิการเช่าของนายเจริญ เพื่อได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ แต่นายเจริญได้ถึงแก่กรรมเสียแล้ว จำเลยมิได้แจ้งความจำนงค์ให้โจทก์ทราบ และจำเลยไม่ได้ชำระค่าเช่าให้โจทก์เลย เป็นการผิดนัดชำระค่าเช่าถึง ๗ คราวติด ๆ กันอีกด้วย จึงไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ ในที่สุดโจทก์ยืนยันว่า การเช่าตั้งแต่ครั้งนายเหรียญสืบตลอดมาเป็นการเช่าไปเพื่อทำการค้าไม่ควรได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ โจทก์จึงมีอำนาจบอกเลิกสัญญาและขับไล่ผู้เช่าได้ดังที่ได้ฟ้องนายเจริญอยู่แล้ว จึงหาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ ทั้งจำเลยให้การต่อสู้ข้อหาของโจทก์ทุกข้อ ไม่เป็นการยากแก่จำเลยที่จะต่อสู้คดี พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายืน.

Share