แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 กำหนดให้ตราสารที่มิได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์จะใช้ต้นฉบับ คู่ฉบับ คู่ฉีก หรือส่วนของตราสารเป็นพยานหลักฐานไม่ได้นั้น ใช้เฉพาะในคดีแพ่งเท่านั้น ส่วนในคดีอาญาไม่มีบทกฎหมายใดห้ามมิให้นำตราสารดังกล่าวมารับฟังเป็นพยานหลักฐานด้วย ดังนั้น เมื่อคดีอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯมาตรา 4 ได้ความว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมแก่โจทก์โดยมีสัญญากู้ยืมเงินมาแสดง ก็ถือได้ว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ออกเช็คธนาคารเอเชีย จำกัด (มหาชน)สาขาย่อยถนนรัถการ ลงวันที่ 6 กันยายน 2542 สั่งจ่ายเงิน 575,000บาท มอบให้โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินกู้ซึ่งเป็นหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่าย เมื่อเช็คถึงกำหนด โจทก์นำไปเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินโดยให้เหตุผลว่า “บัญชีปิดแล้ว” การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์เสียหาย จำเลยออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค เหตุเกิดที่ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2534 มาตรา 4
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามที่โจทก์ฎีกาว่า การที่จำเลยออกเช็คพิพาทเอกสารหมาย จ.2 ชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินเอกสารหมาย จ.1 โดยสัญญากู้ยืมเงินดังกล่าวมิได้ปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 จะถือว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายอันจะทำให้คดีโจทก์มีมูลเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คหรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 118 ที่บัญญัติว่า ตราสารใดไม่ปิดแสตมป์บริบูรณ์จะใช้ต้นฉบับคู่ฉบับ คู่ฉีก หรือส่วนของตราสารนั้นเป็นพยานหลักฐานไม่ได้เฉพาะในคดีแพ่งเท่านั้น ส่วนในคดีอาญาไม่มีบทกฎหมายใดห้ามมิให้นำตราสารดังกล่าวมารับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ด้วย ดังนั้น ในคดีอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534มาตรา 4 เมื่อทางไต่สวนได้ความว่า จำเลยออกเช็คพิพาทเอกสารหมายจ.2 เพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมแก่โจทก์โดยมีสัญญากู้ยืมเงินเอกสารหมาย จ.1มาแสดง ก็ถือได้ว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย ทั้งนี้ตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2544(ประชุมใหญ่) ระหว่าง พนักงานอัยการประจำศาลแขวงสุราษฎร์ธานีโจทก์ นายนิกร ตังควัฒนา โจทก์ร่วม นางนฤพร สุทธิสารหรือนางธนธรณ์มุสิกะวัน กับพวก จำเลย เมื่อเช็คพิพาทเอกสารหมาย จ.2 ถูกธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน การกระทำของจำเลยจึงครบองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2534 มาตรา 4 แล้ว คดีของโจทก์มีมูลเป็นความผิดในทางอาญาที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา