คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4191/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การบังคับคดีนั้นเป็นสิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่จะบังคับเมื่อใดก็ได้ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะงดการบังคับคดี จะถอนการบังคับคดีหรือจะไม่บังคับคดีเสียก็ได้เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีนี้ไม่ประสงค์จะบังคับคดีแก่ผู้ร้องโจทก์ย่อมจะถอนการบังคับคดีได้ไม่มีเหตุที่ศาลจะต้องทำการไต่สวนและบังคับคดีแก่ผู้ร้องอีกต่อไปแม้ผู้ร้องจะคัดค้านว่าผู้ร้องไม่ใช่บริวารของจำเลยหรือหากโจทก์ไปฟ้องคดีใหม่จะทำให้ผู้ร้องเสียค่าใช้จ่ายและเสียเวลาตั้งต้นสู้คดีใหม่ก็ตามก็หาเป็นเหตุที่จะห้ามมิให้โจทก์ถอนการบังคับคดีได้ไม่

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยทั้งสองและบริวารออกจากตึกแถวพิพาท ในชั้นบังคับคดีจำเลยทั้งสองแถลงว่า ผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลยไม่ยอมออกจากตึกแถวพิพาท โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ออกหมายจับผู้ร้อง ศาลชั้นต้นสั่งให้หมายเรียกผู้ร้องมาสอบถาม

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า โจทก์ไม่มีสิทธิในตึกแถวพิพาท และศาลจังหวัดลำปางพิพากษาให้นายประเสริฐ เชื่อสกุลผู้มีสิทธิไปจดทะเบียนการเช่าให้ผู้ร้องแล้วทั้งโจทก์จำเลยได้ตกลงทำสัญญาเช่าตึกพิพาทกับผู้ร้อง โจทก์ไม่มีสิทธิขอบังคับคดีกับผู้ร้องขอให้ศาลไต่สวนคำร้องและพิพากษาว่าผู้ร้องมิใช่บริวารของจำเลย

โจทก์ยื่นคำแถลงคัดค้านว่านายประเสริฐ เชื่อสกุล ไม่มีสิทธินำตึกแถวพิพาทไปให้ผู้ร้องเช่า และโจทก์ไม่เคยตกลงให้ผู้ร้องเช่าตึกแถวพิพาท ขอให้ยกคำร้องและคำพิพากษาว่าผู้ร้องเป็นบริวาร

ในวันนัดไต่สวนคำร้อง โจทก์ยื่นคำร้องว่าโจทก์ขอถอนการบังคับคดีแก่ผู้ร้องไปก่อน โดยโจทก์จะไปดำเนินคดีกับผู้ร้องเป็นคดีใหม่ต่อไป ขอศาลได้อนุญาตให้โจทก์ถอนการบังคับคดีแก่ผู้ร้อง

ผู้ร้องแถลงว่าผู้ร้องมิใช่บริวารของจำเลย ผู้ร้องได้รับความเสียหายมามากแล้วจึงขอคัดค้านในการที่โจทก์ขอถอนการบังคับคดี

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนการบังคับคดีแก่ผู้ร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาย่อมมีสิทธิที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาได้ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด แม้เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเริ่มดำเนินการบังคับคดีแล้ว เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็อาจแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีงดการบังคับคดีไว้ภายในระยะเวลาหรือเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งในกรณีเช่นนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ต้องงดการบังคับคดีไว้ตามที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาแจ้งไปนอกจากนี้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษายังอาจสละสิทธิในการบังคับคดีโดยมีหนังสือแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบ ซึ่งในกรณีเช่นนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ต้องถอนการบังคับคดีตามความประสงค์ของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาาเช่นกัน ทั้งนี้ตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271, 292(3), และ 295(2) บัญญัติไว้ซึ่งเห็นได้ว่าการบังคับคดีนี้เป็นสิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่จะบังคับเมื่อใดก็ได้ภายในกำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนด เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะงดการบังคับคดี จะถอนการบังคับคดีหรือจะไม่บังคับคดีเสียก็ได้ เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีนี้ไม่ประสงค์จะบังคับคดีแก่ผู้ร้อง โจทก์ก็ย่อมขอถอนการบังคับคดีได้ไม่มีเหตุที่ศาลจะต้องทำการไต่สวนและบังคับคดีแก่ผู้ร้องอีกต่อไปแม้ผู้ร้องจะไม่ใช่บริวารของจำเลยดังที่ผู้ร้องอ้าง หรือหากโจทก์ไปฟ้องคดีใหม่จะทำให้ผู้ร้องเสียค่าใช้จ่ายและเสียเวลาตั้งต้นสู้คดีใหม่ ก็หาเป็นเหตุที่จะห้ามมิให้โจทก์ถอนการบังคับคดีได้ไม่

พิพากษายืน

Share