แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์สั่งซื้อสิ่งของที่จะขายให้แก่จำเลยไปยังบริษัทผู้ขายก่อนวันที่ บริษัทผู้ขายล้มละลาย การที่บริษัทผู้ขายไม่ส่งสิ่งของมาให้โจทก์เป็นเพราะเหตุใด โจทก์ไม่ได้นำสืบแสดงให้ปรากฏ บริษัทผู้ขายอาจมีสิ่งของตามสัญญาอยู่แล้ว สามารถส่งมอบให้แก่โจทก์ได้ก่อนที่จะล้มละลาย แต่ไม่ส่งให้เอง ทั้งโจทก์มิได้นำสืบว่าสิ่งของเหล่านั้น โจทก์ไม่สามารถที่จะจัดหาจากผู้ขายรายอื่นได้โจทก์จะอ้างว่าโจทก์ไม่สามารถส่งมอบสิ่งของที่ขายให้แก่จำเลยภายในกำหนดตามสัญญาได้เพราะเหตุสุดวิสัยเนื่องจากบริษัทผู้ขายสิ่งของดังกล่าวให้แก่โจทก์ล้มละลายหาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยทำสัญญาซื้อขายเครื่องเฮลิคอปเตอร์พร้อมอุปกรณ์ในราคา 6,276,750 บาท มีข้อสัญญาว่าหากโจทก์ส่งมอบของไม่ตรงตามสัญญา จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญาหรือโจทก์ยอมให้ปรับเป็นรายวันได้ ปรากฏว่าโจทก์ส่งเฮลิคอปเตอร์ให้จำเลยโดยขาดอุปกรณ์บางอย่างไป 12 รายการ แต่ภายหลังโจทก์จัดส่งอุปกรณ์ให้จำเลยครบถ้วนแล้วโดยล่าช้าไปเพียง 1 วัน ทั้งนี้เนื่องจากเหตุสุดวิสัยโดยบริษัทที่ขายเครื่องเฮลิคอปเตอร์ให้โจทก์ถูกศาลสั่งให้ล้มละลาย แต่จำเลยถือว่าโจทก์ส่งมอบล่าช้าไปถึง 95 วัน และหักเงินไว้เป็นค่าปรับ 1,192,582.50 บาท ซึ่งไม่ถูกต้อง ขอให้จำเลยชำระต้นเงินพร้อมดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน 1,207,489.75 บาทแก่โจทก์ จำเลยให้การว่า จำเลยมีสิทธิคิดค่าปรับจากโจทก์ตามสัญญาโดยปรับเป็นรายวันรวม 95 วัน ซึ่งโจทก์ยอมให้จำเลยปรับไปแล้ว ขอให้ยกฟ้องศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้จากคำฟ้อง คำให้การจำเลยและที่คู่ความทั้งสองฝ่ายนำสืบว่า เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2526โจทก์ได้ทำสัญญาขายเครื่องเฮลิคอปเตอร์ชนิดเครื่องยนต์ไอพ่นยี่ห้อฮิลเลอร์ยูเอช-12 อีที ผลิตโดยบริษัทฮิลเลอร์ เอวิเอชั่นประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้แก่จำเลยจำนวน1 เครื่อง ราคา 6,276,750 บาท ตามสัญญาซื้อขายเอกสารหมาย จ.5กำหนดส่งมอบให้แก่จำเลย ณ ศูนย์ฝึกการบินพลเรือน อำเภอหัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภายในวันที่ 3 พฤษภาคม 2527 ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2527 โจทก์ได้ส่งมอบเครื่องเฮลิคอปเตอร์ให้แก่จำเลย แต่ยังขาดอุปกรณ์บางอย่างและอุปกรณ์บางรายการไม่ตรงตามสัญญา รวม 12 รายการ ตามรายงานผลการตรวจรับเครื่องเฮลิคอปเตอร์เอกสารหมาย จ.6 วันที่ 4 พฤษภาคม 2527 โจทก์ส่งมอบอุปกรณ์ให้แก่จำเลยครบถ้วนตามเอกสารหมาย จ.7 และได้ติดตั้งแก้ไขดัดแปลงอุปกรณ์ต่าง ๆ เสร็จสิ้นในวันที่ 6 กรกฎาคม 2527 หลังจากนั้นได้ร่วมกับคณะกรรมการตรวจรับของจำเลยตรวจสอบและทดลองบินตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2527 ถึงวันที่ 6 สิงหาคม 2527 คณะกรรมการตรวจรับของจำเลยมีความเห็นให้รับเครื่องเฮลิคอปเตอร์ไว้ตามสัญญาและจำเลยได้รับเครื่องเฮลิคอปเตอร์ของโจทก์ไว้แล้วโดยไม่ได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา แต่ได้อาศัยสิทธิตามสัญญาซื้อขายข้อ 9 ปรับโจทก์ฐานส่งมอบสิ่งของล่าช้าในอัตราร้อยละ 0.2 ของราคาเครื่องเฮลิคอปเตอร์ทั้งหมดเป็นรายวันรวม 95 วัน เป็นเงิน 1,192,582.50 บาท และได้หักเงินจำนวนดังกล่าวของโจทก์ไว้แล้ว
พิเคราะห์แล้ว ในปัญหาที่ว่าโจทก์มอบสิ่งของที่ขายให้แก่จำเลยล่าช้าเกินกำหนดตามสัญญาเป็นเพราะเหตุสุดวิสัยหรือไม่ นายสมานโสไกร พยานโจทก์เบิกความว่า โจทก์ส่งมอบเครื่องเฮลิคอปเตอร์ให้จำเลยครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2527 คงขาดแต่อุปกรณ์จำนวน 12 รายการ โจทก์ได้มีหนังสือทวงถามไปยังบริษัทฮิลเลอร์ เอวิเอชั่น ซึ่งเป็นบริษัทผู้ขายให้แก่โจทก์ จึงทราบว่าบริษัทผู้ขายได้ล้มละลายแล้วตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2527 จากคำเบิกความดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าโจทก์ได้สั่งซื้อเครื่องเฮลิคอปเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่าง ๆ ครบถ้วนตามข้อ 1 ของสัญญาซื้อขายเอกสารหมาย จ.5 ไปยังบริษัทผู้ขายก่อนวันที่ 20มกราคม 2527 และในขณะนั้นบริษัทผู้ขายยังไม่ได้ล้มละลาย การที่บริษัทผู้ขายไม่ส่งอุปกรณ์มาให้ครบถ้วนพร้อมกับเครื่องเฮลิคอปเตอร์ให้แก่โจทก์เป็นเพราะเหตุใด โจทก์ไม่ได้นำสืบแสดงให้ปรากฏ โจทก์จะมากล่าวอ้างลอย ๆ ว่าบริษัทผู้ขายได้ล้มละลายในภายหลังเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2527 จึงต้องรอให้บริษัทอื่นเข้ามาจัดกิจการแทน เมื่อมีผู้เข้ามาจัดกิจการแทนแล้ว โจทก์จึงได้รับอุปกรณ์ที่ขาด อันเป็นเหตุสุดวิสัยทำให้โจทก์ไม่สามารถส่งมอบของที่ขายให้แก่จำเลยภายในกำหนดตามสัญญาหาได้ไม่ เพราะบริษัทผู้ขายอาจมีอุปกรณ์ที่ขาดและที่ถูกต้องตามสัญญาอยู่แล้ว สามารถที่จะส่งมอบให้แก่โจทก์ได้ก่อนที่จะล้มละลายแต่ไม่ส่งให้เอง ทั้งโจทก์ก็มิได้นำสืบว่าอุปกรณ์เหล่านั้น โจทก์ไม่สามารถที่จะจัดหาจากผู้ขายรายอื่นได้ ฎีกาโจทก์ในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน