คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4148/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยทำการถ่ายก๊าซหุงต้มจากถังบรรจุก๊าซถังหนึ่งไปสู่อีกถึงหนึ่งโดยใช้สายยางในตึกแถว โดยฝ่าฝืนกฎหมายอันอาจเป็นอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่นได้โดยง่ายนอกจากนี้จำเลยยังกระทำการดังกล่าวเนื่องในการค้าของจำเลย จึงเป็นการเอารัดเอาเปรียบลูกค้าผู้บริโภคอีกด้วยพฤติการณ์แห่งคดีจึงไม่สมควรรอการลงโทษจำคุกแก่จำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ตามพระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516มาตรา 3, 8 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2520 มาตรา 2, 3 คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 3/2529 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2529 ข้อ 17, 20คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 5/2529 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2529และคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 1/2530 ลงวันที่ 20 มกราคม 2530ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 28 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2514ข้อ 1, 2, 3(2), 4, 6 กฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2529)ข้อ 3, 12 ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 28ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2514 พระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ. 2484มาตรา 4, 7(23), 8, 68 ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องควบคุมการค้าซึ่งเป็นที่รังเกียจหรืออาจเป็นอันตรายแก่สุขภาพพ.ศ. 2519 ข้อ 4(84) ข้อบังคับกรุงเทพมหานครว่าด้วยหลักเกณฑ์การประกอบการค้าซึ่งเป็นที่รังเกียจหรืออาจเป็นอันตรายแก่สุขภาพประเภทสะสมก๊าซ พ.ศ. 2525 ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2525ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4ริบของกลางและให้จำเลยหยุดประกอบการค้าสะสมก๊าซจนกว่าจะได้รับอนุญาต
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2516มาตรา 3, 8 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516 (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2520 มาตรา 2, 3 พระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ.2484มาตรา 4, 7(23), 8, 68 ลงโทษฐานถ่ายก๊าซออกจากถังบรรจุก๊าซหุงต้มนอกสถานที่บรรจุก๊าซโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 1 ปี ฐานทำการค้าซึ่งเป็นที่รังเกียจเป็นอันตรายแก่สุขภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 100 บาท รวมจำคุก 1 ปี และปรับ100 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 เดือน และปรับ50 บาท หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 ของกลางริบ ให้จำเลยหยุดประกอบการค้าสะสมก๊าซจนกว่าจะได้รับอนุญาต
จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษจำคุก
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาโดยมีผู้พิพากษา ซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาวินิจฉัยในชั้นนี้ตามฎีกาของจำเลยเพียงว่ากรณีมีเหตุสมควรรอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยหรือไม่พิเคราะห์แล้วได้ความตามที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยทำการถ่ายก๊าซหุงต้มจากถังบรรจุก๊าซถังหนึ่งไปสู่อีกถังหนึ่งโดยใช้สายยางในตึกแถวโดยฝ่าฝืนกฎหมาย การกระทำของจำเลยดังกล่าวเห็นได้ชัดว่าอาจเป็นอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่นได้โดยง่าย นอกจากนี้จำเลยยังกระทำการดังกล่าวเนื่องในการค้าของจำเลย จึงเป็นการเอารัดเอาเปรียบลูกค้าผู้บริโภคอีกด้วยพฤติการณ์แห่งคดีจึงไม่สมควรรอการลงโทษจำคุกแก่จำเลย ข้ออ้างของจำเลยที่ว่าหากจำเลยต้องโทษจำคุกแล้วครอบครัวของจำเลยจะได้รับความลำบาก และจำเลยให้การรับสารภาพกับจำเลยไม่เคยกระทำความผิดมาก่อนนั้น ยังไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะรอการลงโทษจำคุกแก่จำเลย”
พิพากษายืน

Share