คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 406/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ศาลจะอนุญาตให้คู่ความคนใดอุทธรณ์อย่างคนอนาถาได้นั้นต้องประกอบด้วยเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมและผู้ขอต้องแสดงให้เป็นที่พอใจศาลด้วยว่าคดีมีเหตุอันสมควรที่จะอุทธรณ์ หากศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีไม่มีเหตุอันสมควรที่จะอุทธรณ์ ก็ย่อมมีคำสั่งยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาเสียได้ โดยไม่จำต้องไต่สวนเรื่องอนาถาต่อไป
กรณีที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาด้วยเหตุดังกล่าวแล้ว ผู้ขอต้องอุทธรณ์คำสั่งภายในกำหนดเจ็ดวัน นับแต่วันมีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคห้าจะอุทธรณ์ภายในกำหนดหนึ่งเดือนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 229 หาได้ไม่

ย่อยาว

มูลกรณีเนื่องจากจำเลยยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าอุทธรณ์ของจำเลยไม่มีเหตุอันควรที่จะอุทธรณ์จึงไม่อนุญาตให้จำเลยอุทธรณ์อย่างคนอนาถาให้ยกคำร้อง ให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมภายใน ๑๕ วัน ส่วนอุทธรณ์ของจำเลยศาลจะสั่งเมื่อจำเลยปฏิบัติตามคำสั่งนี้แล้ว หรือกำหนดเวลาดังกล่าวล่วงเลยไปแล้ว
จำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งว่า ที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยยังไม่ชอบ และให้เวลาชำระค่าฤชาธรรมเนียมน้อยมาก ขอให้ศาลอุทธรณ์ยืดระยะเวลาให้ด้วย
ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งเกี่ยวกับคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาเกินกำหนด ๗ วันแล้ว ส่วนอุทธรณ์ขอยืดเวลาชำระค่าธรรมเนียม จำเลยจะต้องยื่นขอต่อศาลชั้นต้นก่อน ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย
วันรุ่งขึ้น จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอขยายระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียม
ศาลชั้นต้นนัดไต่สวน
ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ว่า จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่อนุญาตให้จำเลยอุทธรณ์อย่างคนอนาถาได้ภายใน ๑ เดือน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๙
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาชำระเงินค่าฤชาธรรมเนียมอยู่ในระหว่างศาลนัดไต่สวน ย่อมมีผลเท่ากับจำเลยขอถอนคำร้องขออนาถาแล้วและเลือกเอาทางที่จะชำระค่าฤชาธรรมเนียมคดีไม่มีเหตุที่จำเลยจะอุทธรณ์ในเรื่องจำเลยขออนาถาอีก ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งว่า การที่จำเลยขอขยายระยะเวลาชำระค่าฤชาธรรมเนียมนั้น มิใช่จำเลยขอถอนคำขออนาถา แต่ประสงค์ว่าหากร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาไม่ได้แล้ว จำเลยก็จะหาค่าฤชาธรรมเนียมมาชำระต่อไป ขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยไว้ไต่สวนต่อไป
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า จำเลยไม่ได้อุทธรณ์คำสั่งภายใน ๗ วันไม่มีสิทธิอุทธรณ์ในเรื่องอนาถาต่อไป ให้ยกอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๕๕ บัญญัติว่าการที่ศาลจะอนุญาตให้อุทธรณ์อย่างคนอนาถาได้นั้นต้องประกอบด้วยเป็นคนยากจนไม่มีทรัพย์พอจะเสียค่าธรรมเนียมและผู้ขอจะต้องแสดงให้เป็นที่พอใจศาลด้วยว่า คดีมีเหตุผลพอสมควรที่จะอุทธรณ์ ฉะนั้น การที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยโดยเห็นว่าคดีไม่มีเหตุอันควรจะอุทธรณ์ ก็ไม่จำเป็นต้องทำการไต่สวนเรื่องอนาถาต่อไป เพราะแม้จะได้ความว่า จำเลยเป็นคนยากจนอนาถาจริง แต่คดีไม่มีเหตุอันควรจะอุทธรณ์ ศาลก็ย่อมยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาเช่นกัน กรณีเช่นนี้ถือว่าศาลได้มีคำสั่งเรื่องจำเลยขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาแล้ว การอุทธรณ์คำสั่งในเรื่องนี้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๕๖ วรรคห้า บัญญัติว่าต้องอุทธรณ์ภายในกำหนด ๗ วันจะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๙ ซึ่งเป็นบทบัญญัติว่าด้วยการอุทธรณ์ทั่วไปมาใช้ไม่ได้
ฎีกาข้ออื่นของจำเลยไม่เป็นสาระแก่คดี
พิพากษายืน ถ้าจำเลยยังติดใจจะอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นต่อไป ก็ให้นำค่าฤชาธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด ๑๕ วันนับแต่วันฟังคำพิพากษานี้

Share