แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ลูกหนี้เอาทรัพย์ซึ่งตนเป็นเจ้าของร่วมกับคนอื่นทำสัญญาจะขายฝาก สัญญานั้นผูกพันบังคับได้เท่าส่วนของลูกหนี้
กู้เงินกว่า 50 บาทโดยไม่มีสัญญาเป็นหนังสือนั้น หนี้เงินกู้มีอยู่แต่ฟ้องร้องไม่ได้เท่านั้น ถ้าลูกหนี้ทำสัญญาจะขายฝากเท่าจำนวนหนี้ที่ค้างย่อมเป็นการแปลงหนี้ใหม่
ส. และ ก. กู้เงินโจทก์โดย ส.ผู้เดียวลงชื่อในสัญญากู้ส. ตาย ก. ทำสัญญาขายที่ดิน 2 แปลงให้โจทก์แต่สงวนสิทธิไถ่คืนในภายหลังแต่ไม่จดทะเบียน สัญญานี้เป็นสัญญาจะขายฝาก
ผู้ขายฝากไม่โอนที่ให้ผู้ซื้อ ผู้ซื้อเรียกราคาที่ชำระไปคืนได้
ทายาทต้องรับผิดไม่เกินมรดกที่รับจากเจ้ามรดก
ย่อยาว
นางเสา นางกองกู้เงินโจทก์ 7,990 บาท โดยนางเสาลงชื่อในสัญญากู้ผู้เดียว นางเสาตาย นางกองไม่มีเงินใช้จึงทำหนังสือสัญญาขายที่พิพาทให้โจทก์ 7,990 บาท แต่สงวนสิทธิที่จะไถ่ที่นี้คืนถ้าสามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้ สัญญานี้ศาลฎีกาพิพากษาว่ามีลักษณะเป็นสัญญาจะขายฝาก นางกองเช่าทำแล้วตาย ทายาทไม่ยอมโอนนาให้โจทก์โจทก์จึงฟ้องทายาทให้โอนที่ดินหรือใช้เงิน 7,990 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 5 ทายาทของนางกองโอนที่ดินให้โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าไม่เป็นสัญญาซื้อขายแต่เป็นการแปลงหนี้โดยเปลี่ยนตัวลูกหนี้ ให้จำเลยที่ 5 ใช้เงิน 7,990 บาท แก่โจทก์ จำเลยที่ 5 ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยดังนี้
“แม้จะปรากฏข้อเท็จจริงดังกล่าวมาข้างต้นว่า นางกองเป็นหนี้เงินกู้โจทก์ 7,990 บาทร่วมกับนางเสา และนางกอง ทำสัญญาลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2491 ให้โจทก์ไว้ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ก็มีสิทธิที่จะบังคับการชำระหนี้เอาแก่นางกองได้เฉพาะจากทรัพย์สินของนางกองเองเท่านั้น ซึ่งได้กล่าวแล้วว่านางกองมีส่วนได้ในที่ดินโฉนดที่ 2049 เพียง 1 ใน 5 ส่วน และมีส่วนได้ในที่ดินแปลง 40 ไร่เศษที่ไม่มีโฉนดเพียง 3 ใน 5 ส่วน เมื่อเป็นเช่นนี้นางกองจึงมีสิทธิที่จะผูกพันที่ดินทั้งสองแปลงนี้เพียงเท่าที่ตนมีส่วนได้เท่านั้นแม้โจทก์จะฟ้องเรียกเงินกู้จากนางกองไม่ได้ เพราะไม่เคยมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อนางกองเป็นสำคัญ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 650 ก็จริง แต่หนี้เงินกู้ก็คงมีอยู่ หากแต่โจทก์ฟ้องเรียกเงินไม่ได้เท่านั้น เมื่อนางกองทำสัญญาลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2491 ให้โจทก์ยึดไว้ซึ่งสัญญานั้นมีลักษณะเป็นสัญญาจะขายฝากที่พิพาททั้ง 2 แปลง ให้แก่โจทก์ ก็มีผลเป็นการแปลงหนี้เงินกู้ เป็นหนี้ตามสัญญาจะขายฝาก ซึ่งอาจบังคับกันได้ตามกฎหมายเท่าที่นางกองมีส่วนได้ในที่ดินทั้ง 2 แปลงนั้น อย่างไรก็ตามปรากฏในคดีนี้แล้วว่าฝ่ายจำเลยไม่โอนที่ให้แก่โจทก์ตามสัญญาจะขายฝาก จำเลยจึงมีความรับผิดต้องคืนเงิน 7,990 บาทให้แก่โจทก์
อาศัยเหตุดังกล่าวมาแล้ว จึงพร้อมกันพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เฉพาะในข้อที่ให้เด็กชายหริ่งในฐานะผู้รับมรดกความนายยอยจำเลยที่ 5 โดยนายพลอยผู้ปกครองนำเงิน 7,990 บาท ชำระให้แก่โจทก์เพียงไม่เกินจำนวนมรดกของนางกองที่ตกได้แก่จำเลยที่ 5”