แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ. 2464มาตรา 6 ห้ามไม่ให้ยกกำหนดอายุความขึ้นต่อสู้สิทธิของแผ่นดินเหนือที่ดินรถไฟเมื่อที่พิพาทเป็นที่ดินรถไฟตามความหมายในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวดังนั้น บิดาโจทก์และโจทก์จะครอบครองนานเท่าใด ก็หาได้กรรมสิทธิ์ไม่.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินตามทะเบียนการครอบครองเลขที่ 154 หมู่ที่ 3 ตำบลไม้เรียง อำเภอฉวางจังหวัดนครศรีธรรมราชเนื้อที่ 4 ไร่ 2 งาน 10 ตารางวา ด้านทิศใต้และทิศตะวันตกจดเขตรถไฟ โดยรับโอนจากนายนิลบิดาโจทก์ซึ่งบุกเบิกทำประโยชน์มาแต่เดิม โจทก์แจ้งการครอบครองไว้ต่อมาปี พ.ศ. 2521 โจทก์ยื่นคำขอรังวัดออกโฉนด จำเลยที่ 2ซึ่งเป็นลูกจ้างจำเลยที่ 1 มอบให้จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นลูกจ้างจำเลยที่ 1 มาระวังแนวเขตจำเลยที่ 3 ไม่รับรองแนวเขตให้โจทก์อ้างว่าที่ดินที่โจทก์นำชี้เป็นของจำเลยที่ 1เจ้าพนักงานจึงไม่อาจออกโฉนดให้โจทก์ได้ การกระทำของจำเลยทั้งสามทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ศาลบังคับจำเลยทั้งสามถอนคำคัดค้าน ห้ามเกี่ยวข้องกับที่ดินโจทก์ หากจำเลยทั้งสามไม่ปฏิบัติตามขอให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยที่ 1 ที่ 3 ให้การและฟ้องแย้งว่า ที่ดินที่โจทก์นำชี้เป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 1 ได้มาตามประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดจัดที่ดินสร้างทางรถไฟสายใต้ ลงวันที่29 กรกฎาคม ร.ศ. 128 และประกาศกระทรวงโยธาธิการในการจัดซื้อที่ดินสร้างทางรถไฟสายใต้ ลงวันที่ 1 สิงหาคม ร.ศ. 128 ซึ่งแนวเขตที่ดินนี้โจทก์ลงนามรับรองให้แล้ว โจทก์ได้รุกล้ำเข้ามาปลูกสร้างอาคารและใช้ประโยชน์ในที่ดินของจำเลยที่ 1 บริเวณเขตที่ดินรถไฟย่านสถานีทานพอ รวมเป็นเนื้อที่2,113 ตารางเมตร เป็นการละเมิดต่อจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 คิดค่าเสียหายตารางเมตรละ 5 บาทต่อปีเพียง 1 ปี เป็นเงิน 10,565บาท ขอให้ยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์รื้อถอนอาคารออกไปและชดใช้ค่าเสียหาย
โจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ 2 ศาลชั้นต้นอนุญาต
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์การรถไฟแห่งประเทศไทย จำเลยที่ 1 ขยายหลักเขตรุกล้ำเข้ามาในเขตที่ดินโจทก์ และขอซื้อที่ดินจากบิดาโจทก์แต่บิดาโจทก์ไม่ขายให้ โจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยที่ 1 ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยที่ 1 ให้ยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์รื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่พิพาทและชดใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยที่ 1
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์แจ้งการครอบครองตามแบบ ส.ค.1รวมเอาที่พิพาทซึ่งอยู่ในสถานีรถไฟทานพอเอาไว้ด้วยแล้ววินิจฉัยว่า การที่บิดาโจทก์ซื้อที่พิพาทเพิ่มเติมจากเดิม ซึ่งเป็นเขตสถานีรถไฟทานพอ อันเป็น ‘ที่ดินรถไฟ’ ตามความหมายในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวงพ.ศ. 2464 นั้น แม้บิดาโจทก์และโจทก์จะครอบครองมานานเท่าใดก็หาได้กรรมสิทธิ์ไม่ เพราะตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวห้ามไม่ให้ยกกำหนดอายุความขึ้นต่อสู้สิทธิของแผ่นดินเหนือที่ดินรถไฟ
พิพากษายืน.