คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3990/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยต่ำกว่าอัตราโทษขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนดไว้จึงเป็นคำพิพากษาไม่ชอบ แต่เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์หรือฎีกา ศาลฎีกาก็ไม่อาจจะแก้ไขให้ลงโทษจำคุกจำเลยตามอัตราโทษขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนดไว้ได้ เพราะจะเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยอันขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212 ประกอบมาตรา 225

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 7, 8, 26, 76 วรรคสอง, 102 และริบของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 7, 8, 26, 76 วรรคสอง, 102 จำคุก 1 ปี 6 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 9 เดือน ริบของกลาง

จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาในศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 76 วรรคสอง ซึ่งมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี แต่ศาลชั้นต้นวางโทษจำคุกจำเลยเพียง 1 ปี 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 9 เดือนต่ำกว่าอัตราโทษขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ศาลรอการลงโทษให้ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน จำเลยฝ่ายเดียวฎีกา เห็นว่า คำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยต่ำกว่าอัตราโทษขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงเป็นคำพิพากษาที่ไม่ชอบ แต่เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์หรือฎีกา ศาลฎีกาก็ไม่อาจจะแก้ไขให้ลงโทษจำคุกจำเลยตามอัตราโทษขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนดไว้ได้ เพราะจะเป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลยอันขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212 ประกอบมาตรา 225 ซึ่งเป็นคุณแก่จำเลยอย่างยิ่งอยู่แล้ว ฉะนั้นที่จำเลยฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาลงโทษจำเลยหนักเกินไปจึงฟังไม่ขึ้น ส่วนที่จำเลยขอให้รอการลงโทษให้แก่จำเลยนั้น เห็นว่า ตามพฤติการณ์แห่งคดียังไม่สมควรที่จะรอการลงโทษให้แก่จำเลย ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจในส่วนนี้เหมาะสมแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share