แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยมีมีดเป็นอาวุธบุกรุกเข้าไปถึงเตียงนอนผู้เสียหายในขณะที่ผู้เสียหายหลับอยู่ โดยจำเลยไม่ทำร้ายผู้เสียหายทันที เพิ่งจะทำร้ายผู้เสียหายเมื่อผู้เสียหายดิ้นเพื่อให้พ้นจากการถูกจำเลยบีบคอ แสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยว่าที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายนั้นจำเลยมิได้มีเจตนาแต่แรกที่จะเข้าไปทำร้ายผู้เสียหายการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดสองกระทง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีกหนึ่งคนได้ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบ้านพักอันเป็นที่อยู่อาศัยของนางสมพิศโดยไม่มีเหตุอันสมควร จำเลยกับพวกได้ร่วมกันชิงเอาเงินสดของนางสมพิศโดยใช้มือบีบคอนางสมพิศจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย ทั้งนี้เพื่อให้ความสะดวกแก่การชิงทรัพย์ จำเลยกับพวกลงมือกระทำความผิดแล้วแต่กระทำไปไม่ตลอดเพราะนางสมพิศขัดขืนและยิงปืนขู่ จำเลยกับพวกจึงไม่อาจชิงทรัพย์ไปได้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339, 364, 365, 83 และริบมีดของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365(2) (3), 295 ให้เรียงกระทงลงโทษ ริบของกลาง ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องข้อหาบุกรุกและทำร้ายร่างกายด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยมีอาวุธบุกรุกเข้าไปในเคหะสถานของผู้เสียหายโดยไม่มีเหตุสมควรในเวลากลางคืน และได้ทำร้ายผู้เสียหายจนได้รับอันตรายแก่กาย แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า จำเลยมีอาวุธมีดเข้าไปถึงเตียงนอนผู้เสียหายในขณะที่ผู้เสียหายหลับอยู่ จำเลยไม่ทำร้ายผู้เสียหายทันที เพิ่งจะทำร้ายผู้เสียหายเมื่อผู้เสียหายดิ้นเพื่อให้พ้นจากการถูกจำเลยบีบคอ เห็นเจตนาของจำเลยว่าที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายนั้น จำเลยมิได้มีเจตนาแต่แรกที่จะเข้าไปทำร้ายผู้เสียหายการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดสองกระทง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยและริบของกลางตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น