คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3965/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีประกาศใช้พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2526 ยกเลิกความใน ม. 91 และให้ใช้ข้อความใหม่แทนว่า ให้ศาลลงโทษทุกกรรม แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วจะต้องไม่เกิน 50 ปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 10 ปีขึ้นไป ถือได้ว่ากฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำความผิดแตกต่างกับกฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิด แม้คดีเฉพาะตัวจำเลยที่ 2 ที่ 3 จะถึงที่สุดแล้ว ก็ถือได้ว่าเป็นกรณีที่โทษที่กำหนดตามคำพิพากษาหนักกว่าโทษที่กำหนดตามกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3(1) ต้องนำ มาตรา 91 ที่แก้ไขใหม่ซึ่งเป็นคุณแก่จำเลยมาใช้ คดีนี้เมื่อศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 3 คนละ 50 ปี 9 เดือน ศาลฎีกา พิพากษาแก้เป็นจำคุกเพียงคนละ 50 ปี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ได้ว่าจ้างจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ ให้ฆ่านางมาลี และต่อมาจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ร่วมกันมีอาวุธปืนลูกซองไม่มีหมายเลขทะเบียนและพกพาไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ ได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงนางมาลีจนถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๙, ๘๓, ๘๔, ๙๑ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิริบของกลาง ขอให้เพิ่มโทษและนับโทษต่อ
จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ ระหว่างการพิจารณาจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ขอถอนคำให้การเดิม เป็นให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙,๘๔ ลงโทษประหารชีวิต ลดโทษให้หนึ่งในสามเหลือจำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ และผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙, ๘๓, ๙๑ ลดโทษแล้วทุกกระทงรวมจำคุกจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ คนละ ๕๐ ปี ๙ เดือน และนับโทษต่อส่วนจำเลยที่ ๔ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙, ๘๓ ลดโทษแล้วให้จำคุกตลอดชีวิต ริบรถยนต์ของกลาง
จำเลยทั้งสี่อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะจำเลยที่ ๔ คืนรถยนต์แก่เจ้าของ
โจทก์และจำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๔ ได้กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้อง แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ปรากฏว่าเมื่อคดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๖ ยกเลิกความในมาตรา ๙๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๔ และให้ใช้ข้อความใหม่แทนว่า ให้ศาลลงโทษผู้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันทุกกรรมเป็นกระทงความผิด ฯลฯ แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว จะต้องไม่เกิน ๕๐ ปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน ๑๐ ปีขึ้นไป จึงถือได้ว่ากฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำความผิดแตกต่างกับกฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำความผิดแม้คดีเฉพาะตัวจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ จะถึงที่สุดแล้ว ก็ถือได้ว่าเป็นกรณีที่โทษที่กำหนดตามคำพิพากษาหนักกว่าโทษที่กำหนดตามกฎหมายที่บัญญัติในภายหลัง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓(๑) ต้องนำมาตรา ๙๑ ที่แก้ไขใหม่ซึ่งเป็นคุณแก่จำเลยมาใช้ดังนั้นคดีนี้จึงต้องลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ เพียงคนละ ๕๐ ปี
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยที่ ๔ และนับโทษต่อตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ส่วนจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ให้ลงโทษจำคุกคนละ ๕๐ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑(๓) ซึ่งได้แก้ไขใหม่โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๖ มาตรา ๔

Share