คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 396/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ประเด็นแห่งคดีมีว่าสมควรตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกหรือไม่เท่านั้น เมื่อทรัพย์มรดกของผู้ตายยังแบ่งปันไม่เสร็จสิ้น ยังมีทรัพย์มรดกที่จะต้องจัดการต่อไป จึงเป็นเหตุที่จะต้องตั้งผู้จัดการมรดก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 วรรคท้าย การตั้งผู้จัดการมรดกนั้นให้ศาลตั้งเพื่อประโยชน์แก่กองมรดกตามพฤติการณ์และโดยคำนึงถึงเจตนาของเจ้ามรดกแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร แม้ศาลอุทธรณ์จะยังมิได้หยิบยกขึ้นวินิจฉัย แต่ผู้ร้องและผู้คัดค้านได้สืบพยานจนเสร็จสำนวนแล้ว ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยไปเสียทีเดียวได้ พฤติการณ์ของผู้ร้องและผู้คัดค้านมีข้อโต้แย้งกันเกี่ยวกับการแบ่งปันทรัพย์มรดก การจะให้จัดการมรดกร่วมกันไม่อาจทำได้ต้องตั้งผู้ที่มีความเหมาะสมมากกว่าเป็นผู้จัดการมรดก

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอและแก้ไขคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายสุระเวช ฉินสกลธนากร ซึ่งถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2527 ก่อนถึงแก่กรรมนายสุระเวชมีที่ดินหลายแปลงแต่ไม่ได้ทำพินัยกรรมและไม่ได้ตั้งผู้ใดเป็นผู้จัดการมรดกไว้ การจัดการมรดกมีเหตุขัดข้อง ขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้
ผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องคัดค้าน ขอให้ยกคำร้อง และตั้งผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดก
ผู้คัดค้านที่ 3 ยื่นคำร้องคัดค้าน และขอให้ยกคำร้องของผู้ร้องและคำคัดค้านของผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง และให้ผู้คัดค้านที่ 1ที่ 2 ร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย
ผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำร้องคัดค้านของผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 เสียด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 และผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในคดีร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกนั้นประเด็นแห่งคดีมีว่าสมควรตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกหรือไม่เท่านั้น ที่ผู้คัดค้านที่ 3 อ้างว่าได้มีการแบ่งปันทรัพย์มรดกเสร็จสิ้นแล้ว เหตุจำเป็นในการร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกไม่มีนั้นพยานหลักฐานของผู้คัดค้านที่ 3 ต่างเบิกความแตกต่างและขัดแย้งกันเกี่ยวกับวันเวลาตลอดจนส่วนแบ่งในทรัพย์มรดกซึ่งทายาทแต่ละคนได้รับส่วนแบ่งอีกทั้งทรัพย์มรดกที่เป็นที่ดินก็ยังปรากฏชื่อผู้ตายเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ พยานหลักฐานของผู้คัดค้านที่ 3 ฟังไม่ได้ว่าทรัพย์มรดกของผู้ตายได้แบ่งปันกันจนเสร็จสิ้นแล้ว จากข้อนำสืบของผู้ร้องและผู้คัดค้านทั้งสามแสดงให้เห็นในเบื้องต้นว่า มีทรัพย์มรดกของผู้ตายที่จะต้องจัดการต่อไป อันเป็นเหตุที่จะต้องตั้งผู้จัดการมรดกดังที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอ จึงถือไม่ได้ว่าผู้ร้องใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ผู้ร้องจึงมีสิทธิร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้
มีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยในชั้นฎีกาต่อไปว่า ในระหว่างผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 ผู้ใดสมควรเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 วรรคท้ายการตั้งผู้จัดการมรดกนั้นให้ศาลตั้งเพื่อประโยชน์แก่กองมรดกตามพฤติการณ์ และโดยคำนึงถึงเจตนาของเจ้ามรดก แล้วแต่ศาลจะเห็นสมควรประเด็นดังกล่าว แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 จะยังมิได้หยิบยกขึ้นวินิจฉัยแต่ผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 ต่างได้นำสืบพยานจนเสร็จสำนวนมาแล้ว จึงสมควรวินิจฉัยประเด็นดังกล่าวไปเสียทีเดียว เห็นว่าผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 ต่างก็เป็นทายาทที่มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย และมีคุณสมบัติไม่ต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดกตามที่กฎหมายกำหนดไว้ การที่ผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 จะเป็นผู้จัดการมรดกได้หรือไม่นั้น จะต้องคำนึงถึงหน้าที่ในการจัดการมรดกตลอดจนความประพฤติของผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2ประกอบด้วย เพราะผู้จัดการมรดกมีหน้าที่สำคัญในการรวบรวมทรัพย์มรดกเพื่อนำมาแบ่งปันให้แก่ทายาท เมื่อพิจารณาพฤติการณ์ของผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 ตามที่ปรากฏทั้งในคำร้อง คำร้องคัดค้านและการนำสืบของทั้งสองฝ่ายแล้ว กรณีมีข้อโต้แย้งกันเกี่ยวกับทรัพย์มรดกของผู้ตายในการแบ่งปัน เมื่อทั้งสองฝ่ายมีข้อโต้แย้งกันเช่นนี้ การจะให้จัดการมรดกร่วมกันในการรวบรวมทรัพย์มรดกของผู้ตายจึงมีข้อแสดงให้เห็นในเบื้องต้นว่า จะไม่อาจที่จะจัดการร่วมกันได้เมื่อพิจารณาถึงทายาทตามที่ปรากฏในบัญชีเครือญาติแล้ว จะเห็นได้ว่าผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทายาทส่วนใหญ่มากกว่าผู้ร้องตลอดจนช่วยดูแลกิจการของผู้ตายตลอดมา ผู้คัดค้านที่ 1ที่ 2 จึงน่าจะเป็นผู้รักษาผลประโยชน์ของทายาทส่วนใหญ่ได้ดีกว่าผู้ร้อง ทั้งผู้คัดค้านที่ 1 เป็นพี่ชายคนโต ได้รับการศึกษาชั้นปริญญานิติศาสตร์บัณฑิต ส่วนผู้คัดค้านที่ 2 สำเร็จการศึกษาชั้นปริญญาโทด้านการบริหารโรงงานอุตสาหกรรมเป็นที่รักใคร่ของพี่น้องมีความประพฤติดีนับว่าเป็นผู้เหมาะสมที่จะเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกคำร้องของผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2ด้วยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้นส่วนฎีกาของผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 2 ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share