แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยออกเช็คให้นายวงในการเล่นแชร์เพียงเพื่อเป็นหลักฐานที่นายวงจะเรียกเก็บเงินไปให้แก่ผู้ที่เปียได้ มิใช่เพื่อให้ใช้เงินทันที แล้วจำเลยห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็คไว้ เพราะนายวงไม่ชำระเงินให้จำเลยครบตามจำนวนที่จำเลยเปียได้นั้น หาใช่เป็นการห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินตามเช็คโดยทุจริตไม่ เพราะจำเลยมีสิทธิที่จะหักหนี้กับนายวงแชร์ได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๐๕ เวลากลางวัน จำเลยบังอาจออกเช็คธนาคารมณฑล จำกัด สาขาทุนทิน ฉบับเลขที่ ๑๔๐๘๘ ลงวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๐๕ สั่งจ่ายเงิน ๑,๐๐๐ บาท ให้แก่นางกิมหล่าน แซ่ด่าน หรือผู้ถือ เพื่อชำระไนี้ในการซื้อสินค้าผ้า ครั้น ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๐๕ นางกิมหล่านนำเช็คไปเบิกเงิน แต่ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินเพราะจำเลยมีหนังสือถึงธนาคารไม่ให้จ่าย ทั้งนี้ จำเลยออกเช็คในขณะที่ออกและในวันสั่งจ่ายไม่มีเงินอยู่ในบัญชี ออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงิน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา ๓,๕
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยซื้อผ้าไปจากผู้เสียหาย และจำเลยจ่ายเช็คให้โดยขณะที่ออกไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ และจำเลยห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินตามเช็คโดยเจตนาทุจริต พิพากษาว่าผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ จำคุก ๓ เดือน ให้รอการลงโทษไว้ ๒ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยออกเช็คเป็นหลักฐานในการเล่นแชร์ หาใช่จำเลยมีเจตนาออกเช็คเพื่อสั่งจ่ายเงินจริงจังไม่ คดีไม่มีทางลงโทษจำเลย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นควรฟังข้อเท็จจริงเสียก่อนว่า จำเลยออกเช็คฉบับพิพาทให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้การซื้อผ้าหรือว่าออกเช็คให้นายดิลกนายวงในการเล่นแชร์ ข้อนี้ได้ความว่าจำเลยเป้นเจ้าของร้านตัดผมตัดเสื้อ มีฐานะดี ในวันที่ผู้เสียหายนำเช็คพิพาทไปขึ้นเงิน จำเลยมีเงินอยู่ในบัญชีมากกว่าเช็คถึง ๒ เท่า หากเป็นเรื่องซื้อสินค้าตามธรรมดาก็ไม่เห็นมีเหตุผลเลยว่า ทำไมจำเลยจะไม่ยอมใช้เงิน การที่จำเลยสั่งระงับการจ่าย น่าจะมีมูลเหตุให้กระทำศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ปรากฎว่า นางกิมหล่านผู้เสียหายกับจำเลยและคนอื่นเล่นแชร์วงเดียวกัน มือละ ๑,๐๐๐ บาท โดยมีนายดิลกเป็นนายวง จำเลยเปียแชร์ได้แต่นายดิลกจ่ายเงินให้ไม่ครบ ยังค้างอีก ๓,๐๐๐ บาทเศษ เพราะผู้เล่นแชร์อีก ๓ คนยังไม่ได้ชำระให้นายวง คนหนึ่งคือ นายประดิษฐ์ พยานจำเลยว่า เช็คของนายประดิษฐ์ที่ออกให้นายวงยังไม่ได้จ่ายเงินก็มีจึงสนับสนุนจำเลยที่อ้างว่านายวงค้างชำระจำเลยอยู่จริง เดือนต่อมาจำเลยออกเช็คส่งแชร์เต็ม ๑,๐๐๐ บาท เดือนนี้นางกิมหล่านเปียได้ นายวงจะให้จำเลยจ่ายเงินตามเช็คให้ผู้เสียหายก่อน ส่วนหนี้ที่ค้างให้รอไป จำเลยไม่ยอมจึงสั่งธนาคารระงับการจ่ายเงินตามเช็คไว้ ศาลฎีกาเห็นว่ามูลเหตุที่จำเลยนำสืบมีเหตุผลควรเชื่อได้ว่า เช็คพิพาทตกมาอยู่แก่ผู้เสียหายเพราะการเล่นแชร์ ที่โจทก์นำสืบว่า จำเลยเป็นหนี้ค่าซื้อผ้า โดยอ้างลูกจ้างในร้านเป็นพยานประกอบ ก็เบิกความแตกต่างกัน ดังศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไว้ ศาลฎีกาเห็นฟ้องกับศาลอุทธรณ์ที่ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยออกเช็คฉบับพิพาทให้นายดิลกนายวงแชร์ในการเล่นแชร์ ซึ่งตามวิธีเล่นแชร์ในฟ้องสำนวนเป็นแต่เพียงหลักฐานที่นายวงแชร์จะเรียกเก็บเงินไปให้แก่ผู้ที่เปียได้ มิใช่ออกเช็คเพื่อใช้เงินทันที และการที่จำเลยห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็คเพราะนายวงแชร์ไม่ชำระเงินให้จำเลยครบตามจำนวนที่จำเลยเปียได้ โดยจะให้จำเลยจ่ายเงินตามเช็คนั้นก่อน จำเลยไม่ยอมจึงขอให้ธนาคารระงับการจ่ายเงินตามเช็ค หาใช่เป็นการห้ามธนาคารจ่ายเงินโดยเจตนาทุจริตไม่เพราะจำเลยมีสิทธิที่จะหักหนี้กับนายวงแชร์ได้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด
พิพากษายืน.