คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3949/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

มาตรา40,87,88วรรคแรก,90 การนัดสืบพยานโจทก์ตามที่ทนายจำเลยขอเลื่อนนั้นทนายจำเลยเป็นผู้กำหนดขอให้ศาลชั้นต้นทำการสืบพยานโจทก์เองและตามคำร้องขอเลื่อนคดีของทนายจำเลยดังกล่าวได้อ้างเหตุว่าติดว่าความในคดีอื่นซึ่งปรากฏว่าในคดีนั้นคู่ความมิได้แต่งตั้งทนายจำเลยคดีนี้เป็นทนายความดังนี้การขอเลื่อนคดีของจำเลยจึงปราศจากมูลเหตุที่จะอ้าง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา87บัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานใดเว้นแต่คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานหลักฐานได้แสดงความจำนงที่จะอ้างอิงพยานหลักฐานนั้นดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา88และ90ดังนี้เมื่อจำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวันตามมาตรา88จำเลยจึงไม่อาจนำพยานหลักฐานหรือตนเองเข้าสืบได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยไถทำลายคันเขตที่ดินของโจทก์และไถทับที่นาของโจทก์เป็นเนื้อที่ 3 ไร่ ทำให้โจทก์ขาดประโยชน์ปีละ 3,100 บาท ขอให้พิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินของโจทก์ และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ปีละ 3,100 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะออกไปจากที่ดิน จำเลยให้การว่า ที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่จำเลยซื้อมาจากนางจำปีจำเลยได้เข้าครอบครองเกินหนึ่งปีแล้ว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง ในชั้นพิจารณาศาลชั้นต้นกะประเด็นหน้าที่นำสืบให้โจทก์สืบก่อนในวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์และจำเลยมาศาล ทนายจำเลยไม่มาศาล แต่ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี โจทก์แถลงคัดค้าน ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฝ่ายจำเลยเป็นผู้กำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์เองในนัดที่แล้ว และปรากฏว่าฝ่ายจำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดสืบพยาน 3 วัน จึงไม่สมควรให้เลื่อนคดีให้ยกคำร้อง และให้โจทก์นำพยานเข้าสืบแล้วนัดฟังคำพิพากษา จำเลยยื่นคำแถลงโต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีโดยอ้างว่ามีเหตุจำเป็นต้องขอเลื่อน เนื่องจากทนายจำเลยติดว่าความคดีอื่นซึ่งนัดไว้ก่อนแล้วและคดีนี้ทนายจำเลยเพิ่งขอเลื่อนการพิจารณาเป็นครั้งแรก ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์และนายมโนสามีโจทก์ ให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่พิพาท และให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ปีละ 3,100 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะออกไปจากที่พิพาท จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การนัดสืบพยานโจทก์ตามที่ทนายจำเลยขอเลื่อนดังกล่าวทนายจำเลยเป็นผู้กำหนดขอให้ศาลชั้นต้นทำการสืบพยานโจทก์เอง และตามคำร้องขอเลื่อนคดีของทนายจำเลย อ้างเหตุผลในการขอเลื่อนว่าเป็นเพราะติดว่าความที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ก็ปรากฏว่าศาลอุทธรณ์ได้ขอยืมสำนวนคดีดังกล่าวจากศาลแขวงพระนครเหนือ คงได้ความว่าคู่ความคดีดังกล่าวมิได้แต่งตั้งทนายจำเลยคดีนี้เป็นทนายความแต่ประการใด การขอเลื่อนคดีของจำเลยจึงปราศจากมูลเหตุที่จะอ้าง ส่วนปัญหาที่ว่าควรให้จำเลยนำพยานเข้าสืบ หรือเพียงแต่จำเลยนำตัวเองเข้าสืบหรือไม่นั้น เห็นว่าคดีนี้ปรากฏว่า จำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานจำเลยก่อนวันนัดสืบพยาน 3 วัน กรณีจึงเข้าบทบัญญัติมาตรา 87 ซึ่งบัญญัติว่า ห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานใด เว้นแต่ คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานหลักฐานได้แสดงความจำนงที่จะอ้างอิงพยานหลักฐานนั้นดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 88และ 90 เหตุนี้จำเลยจึงไม่อาจนำพยานหลักฐานหรือตนเองเข้าสืบได้ พิพากษายืน

Share