แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จงใจแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานทำให้เขาต้องถูกกักขังนั้นเป็นการละเมิด ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน
ย่อยาว
คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาห้ามไม่ให้จำเลยเข้าไปหรือจอดเรือที่ท่าและที่ดินรายพิพาท และให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าสินไหมทดแทนในการที่โจทก์ต้องถูกเจ้าพนักงานสอบสวนกักขังโดยจำเลยไปร้องเรียนเท็จหาว่าโจทก์กระทำผิดทางอาญาให้แก่โจทก์ด้วย
จำเลยอุทธรณ์และฎีกาในปัญหาเรื่องค่าสินไหมทดแทนที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดนี้ต่อมา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยไม่มีความผิดอย่างใด เหตุใดศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาให้ใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้มีเหตุผลและหลักฐานน่าเชื่อว่าจำเลยที่ 1 จงใจแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานจับโจทก์ไปกักขังสอบสวน เป็นการละเมิดต่อโจทก์ ชอบที่จะต้องให้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 จึงพิพากษายืน