คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3854/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลพิพากษาลงโทษปรับจำเลย 5 คนโดยรวมปรับ เมื่อจะต้องกักขังแทนค่าปรับ แม้จำเลยจะถูกลงโทษปรับในความผิดหลายกระทงก็คงกักขังจำเลยทุกคนแทนค่าปรับได้ไม่เกินสองปีตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 30 โดยต้องเฉลี่ยกักขังไปตามสัดส่วน ของตัวจำเลย และเมื่อรวมจำนวนวันที่ถูกกักขังของจำเลยทุกคนแล้ว ต้องไม่เกินสองปีตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 30

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันมีแร่ดีบุก ขนย้ายแร่และพยายามส่งแร่ดีบุกออกนอกราชอาณาจักร น้ำหนัก 5,000 กิโลกรัม ราคา 1,134,641 บาท 35 สตางค์โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันนำแร่จำนวนดังกล่าว รวมราคาของและค่าภาษีเป็นเงิน 1,184,565 บาท 57 สตางค์ ซึ่งอยู่ในความควบคุมและต้องห้ามส่งออกนอกราชอาณาจักรและยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร และเสียค่าอากรโดยถูกต้องออกไปนอกราชอาณาจักรโดยบรรทุกไปกับเรือยนต์ เจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งห้าได้พร้อมแร่ดีบุกและเรือเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ. 2469 มาตรา 27, 32, 102 ตรี (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 มาตรา 16, 17 (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2490 มาตรา 3 พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 105,108, 129, 148, 152, 154 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2516 มาตรา 32 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2522 มาตรา 18, 21, 23 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พ.ศ. 2489 มาตรา 6, 7, 8 ริบของกลาง จ่ายเงินสินบนนำจับและรางวัลแก่สายลับผู้นำจับและเจ้าพนักงานผู้จับตามกฎหมาย

จำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นลงโทษฐานร่วมกันพยายามลักลอบนำสินค้าหลบหนีศุลกากรออกนอกราชอาณาจักรซึ่งเป็นบทหนัก ปรับ 3,158,841 บาท 52 สตางค์ และลงโทษฐานมีแร่ไว้ในความครอบครองเกินกว่า 2 กิโลกรัม ปรับ 5,673,206 บาท80 สตางค์ เรียงกระทงลงโทษเป็นปรับ 8,832,048 บาท 32 สตางค์ จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงปรับ 4,416,024 บาท 16 สตางค์ ริบของกลาง จ่ายเงินสินบนนำจับและรางวัลแก่สายลับผู้นำจับและเจ้าพนักงานผู้จับตามกฎหมาย ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 โดยให้กักขังไว้มีกำหนดคนละไม่เกิน 2 ปี

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับจำเลยทั้งห้ารวมเป็นเงิน 4,738,262 บาท 28 สตางค์ รวมค่าปรับฐานมีแร่ไว้ในความครอบครองเกินกว่า 2 กิโลกรัม5,673,206 บาท 80 สตางค์ เป็นเงิน 10,411,469 บาท 08 สตางค์ ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่งแล้วคงปรับ 5,205,734 บาท 50 สตางค์ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 หากต้องกักขังแทนค่าปรับ ให้กักขังแทนคนละ 4 เดือน 24 วัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คงมีปัญหาตามฎีกาของโจทก์เพียงว่าจะกักขังจำเลยแทนค่าปรับมีกำหนดเวลาเท่าใด พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ลงโทษในกระทงความผิดฐานลักลอบนำสินค้าหลบหนีศุลกากรออกนอกราชอาณาจักรและฐานมีแร่ไว้ในความครอบครองเกินกว่า 2 กิโลกรัม โดยรวมปรับทั้งสองกระทงโจทก์มิได้อุทธรณ์ในปัญหาที่ว่าจะต้องรวมปรับหรือเรียงตัวปรับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 31 กรณีจึงเป็นที่ยุติว่าจำเลยทุกคนถูกลงโทษโดยรวมปรับ ดังนั้นเมื่อมีกรณีที่จะต้องกักขังแทนค่าปรับเช่นนี้ถึงแม้จำเลยจะถูกลงโทษปรับในความผิดหลายกระทง การกักขังแทนค่าปรับก็คงกักขังจำเลยทุกคนแทนค่าปรับได้ไม่เกินสองปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 30 ในเมื่อจำเลยทั้ง 5 คนจะต้องถูกกักขังแทนค่าปรับที่รวมกันอยู่ก็ต้องเฉลี่ยกักขังไปตามสัดส่วนของตัวจำเลยโดยรวมจำนวนวันที่ถูกกักขังของจำเลยทุกคนแล้วไม่เกินกำหนดอัตรากักขังขั้นสูงตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 30 เพราะถ้าจะกักขังจำเลยแต่ละคนไม่เกิน 2 ปี ตามที่โจทก์ฎีกาแล้วก็จะเป็นการกักขังเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับการกักขังแทนค่าปรับ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้กักขังแทนค่าปรับคนละ4 เดือน 24 วันนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share