คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3806/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอบังคับจำเลยในฐานะทายาทและผู้จัดการมรดกของผู้ตายให้จัดการให้ผู้ที่อยู่อาศัยในห้องแถวออกไปจากห้องและให้โอนขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินกองมรดกของผู้ตายที่ผู้ตายได้ทำสัญญาจะซื้อขายให้ไว้แก่โจทก์ สิทธิเรียกร้องของโจทก์อันมีต่อเจ้ามรดกจึงตกอยู่ภายในบังคับของอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1754 วรรคสาม โจทก์ต้องฟ้องคดีภายในกำหนด 1 ปีนับแต่เมื่อโจทก์ได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายแพทย์เฉลิมได้ทำสัญญาขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแก่โจทก์โดยชำระราคาเป็นงวด ๆ สัญญากำหนดไว้ว่าการให้ผู้ที่อยู่อาศัยในห้องแถวออกไปจากห้องเป็นหน้าที่ของผู้ขาย โจทก์จะเริ่มจ่ายเงินงวดที่หนึ่งต่อเมื่อผู้ที่อยู่อาศัยได้ขนย้ายออกไปแล้ว ต่อมาโจทก์ทราบว่านายแพทย์เฉลิมถึงแก่ความตาย โจทก์เร่งรัดให้ทายาทปฏิบัติตามสัญญาแต่ก็ได้พากันเพิกเฉย จึงขอบังคับให้จำเลยร่วมกันปฏิบัติตามเงื่อนไขแห่งสํญญาซื้อขาย โดยจัดการให้ผู้อยู่อาศัยในห้องแถวออกไปจากห้อง และโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้แก่โจทก์

จำเลยและจำเลยร่วมให้การต่อสู้คดีหลายประการ และต่อสู้ว่าโจทก์ฟ้องคดีตามสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้อันมีต่อเจ้ามรดกเกินกำหนดระยะเวลา 1 ปีนับแต่โจทก์ได้ทราบถึงความตายของเจ้ามรดก คดีขาดอายุความ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินพิพาทที่นายแพทย์เฉลิมผู้ตายทำไว้แก่โจทก์ตามเอกสารหมาย จ.1 นายแพทย์เฉลิมผู้ขายมีทั้งสิทธิและหน้าที่ กล่าวคือมีสิทธิได้รับชำระค่าที่ดินที่เหลือจากการวางมัดจำจากโจทก์เป็นจำนวนเงิน 2,232,400บาท กับมีหน้าที่ต้องจัดการให้ผู้ที่อยู่อาศัยในห้องแถวไม้ทั้ง 24 ห้องออกไปจากห้องแถวไม้ดังกล่าวภายในกำหนด 6 เดือน นับตั้งแต่วันลงชื่อในสัญญาคือวันที่ 18 เมษายน 2518 หรืออย่างช้าภายในกำหนดการจ่ายเงินงวดที่หนึ่งคือภายในเดือนตุลาคม 2518 ทั้งนี้ตามข้อ 4 และข้อ 2 ของสัญญาข้างต้น ส่วนการขยายระยะเวลาออกไปต้องเป็นกรณีมีความจำเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งที่ผู้ขายไม่สามารถจะให้ผู้ที่อยู่อาศัยในห้องแถวไม้ดังกล่าวออกไปได้ภายในกำหนดตามที่ระบุไว้ ซึ่งโจทก์ก็ตระหนักดีในข้อนี้ดังจะเห็นได้จากหนังสือบอกกล่าวทวงถามและคำขออายัดของโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.4 หรือ จ.6 และ จ.10 สิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่จะบังคับผู้ขายให้ปฏิบัติตามสัญญาที่ว่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันทำสัญญา เมื่อนายแพทย์เฉลิมถึงแก่ความตาย สิทธิและหน้าที่ของนายแพทย์เฉลิมตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินรายนี้จึงตกเป็นกองมรดกของนายแพทย์เฉลิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1600 โจทก์ฟ้องขอบังคับจำเลยทั้งแปดและจำเลยร่วมในฐานะทายาทและผู้จัดการมรดกของนายแพทย์เฉลิมผู้ตายให้จัดการให้ผู้ที่อยู่อาศัยในห้องแถวไม้ 24 ห้องออกไปจากห้องทั้งหมดและให้โอนขายที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินกองมรดกของนายแพทย์เฉลิมที่นายแพทย์เฉลิมได้ทำสัญญาจะซื้อขายให้ไว้แก่โจทก์ สิทธิเรียกร้องของโจทก์อันมีต่อนายแพทย์เฉลิมเจ้ามรดกจึงตกอยู่ภายใต้บังคับของอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 วรรคสาม โดยโจทก์ต้องฟ้องคดีดังกล่าวภายในกำหนด 1 ปีนับแต่เมื่อโจทก์ได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก

พิพากษายืน

Share