คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3791/2551

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

การยื่นคำแถลงขอให้งดการบังคับคดีให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ไม่มีกฎหมายห้ามมิให้กระทำ ดังนั้น เมื่อโจทก์ได้มีหนังสือแจ้งของดการบังคับคดีไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดีก่อนการขายทอดตลาดเจ้าพนักงานบังคับคดีทราบแล้ว แต่มีคำสั่งให้ยกคำแถลง แต่ไม่แจ้งเรื่องคำสั่งยกคำแถลงให้โจทก์ทราบ ทำให้โจทก์ไม่ได้ไปดูแลการขายทอดตลาดตามกำหนดเดิม เจ้าพนักงานบังคับคดียังได้ขายทอดตลาดทรัพย์ให้ผู้ซื้อทรัพย์ไป เช่นนี้ เป็นเรื่องที่โจทก์ของดการบังคับคดีไว้ชั่วระยะเวลาหนึ่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 292 (3) (เดิม) ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีต้องปฏิบัติตาม การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีต่อไปถือว่าได้กระทำไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นการบังคับคดีที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติดังกล่าว กรณีมีเหตุสมควรให้เพิกถอนการขายทอดตลาดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสอง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยทั้งสี่ชำระเงินพร้อมดอกเบี้ย โดยจำเลยทั้งสี่ตกลงชำระหนี้เป็นงวด ๆ แต่จำเลยทั้งสี่ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์จึงขอออกหมายบังคับคดี แล้วนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์จำนองขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ ต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินไปในราคา 200,000 บาท และที่ดินโฉนดเลขที่ 11563 ไปในราคา 400,000 บาท
โจทก์ยื่นคำร้องว่า โจทก์มีความประสงค์งดการบังคับคดีไว้ก่อนเพื่อให้โอกาสจำเลยทั้งสี่ผ่อนชำระหนี้ โจทก์จึงได้ยื่นคำแถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีให้งดการขายทอดตลาดเฉพาะครั้งที่ 9 ไว้ก่อน และได้ทำคำแถลงเป็นหนังสือส่งไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดีจังหวัดสุพรรณบุรีด้วยวิธีไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ เจ้าพนักงานบังคับคดีรับแล้วเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2545 และมีคำสั่งในวันเดียวกันว่า “ไม่ระบุเหตุของดการบังคับคดี ให้ผู้แทนโจทก์ระบุเหตุที่ของดการบังคับคดี ยกคำแถลง” โดยที่มิได้แจ้งคำสั่งให้โจทก์ทราบแต่อย่างใด โจทก์จึงมิได้ไปดูแลการขายทอดตลาดดังกล่าวปรากฏว่านายสุทธิสุวรรณประทีปซื้อที่ดินดังกล่าวได้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อกฎหมายเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ศาลเพิกถอนการขายทอดตลาด
จำเลยทั้งสี่และผู้ซื้อทรัพย์ไม่ยื่นคำร้องคัดค้าน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีในครั้งวันที่ 7 สิงหาคม 2545 เสีย ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้ซื้อทรัพย์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของโจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นฟังได้ว่า โจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ได้ยึดทรัพย์ของจำเลยไว้ตามคำพิพากษาตามยอม มีการประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดมา 8 ครั้งแล้ว แต่ยังขายไม่ได้ ในการประกาศขายทอดตลาดครั้งที่ 9 โจทก์ได้มีหนังสือขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีงดการบังคับคดีไว้ก่อนทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ เจ้าพนักงานบังคับคดีรับทราบแล้ว แต่มีคำสั่งยกคำแถลง ต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์มีปัญหาต้องพิจารณาตามฎีกาของโจทก์ว่า มีเหตุให้เพิกถอนการขายทอดตลาดครั้งดังกล่าวของเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือไม่ โจทก์อ้างว่าได้แจ้งของดการบังคับคดีให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบโดยชอบแล้ว เห็นว่า การยื่นคำแถลงแจ้งเรื่องการขอให้งดการบังคับคดีให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไม่มีกฎหมายห้ามมิให้กระทำ ดังนั้น เมื่อโจทก์ได้มีหนังสือแจ้งของดการบังคับคดีไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดีก่อนการขายทอดตลาด เจ้าพนักงานบังคับคดีเจ้าของสำนวนทราบแล้ว แต่มีคำสั่งให้ยกคำแถลง และในวันรุ่งขึ้น (6 สิงหาคม 2545) นางจารุณี พนักงานโจทก์ได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าหน้าที่ของสำนักงานบังคับคดีดังกล่าว สอบถามว่าได้รับคำแถลงของดการบังคับคดีฉบับดังกล่าวไว้แล้วหรือไม่ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานบังคับคดีแจ้งว่าได้รับแล้ว แต่ไม่แจ้งเรื่องคำสั่งยกคำแถลงให้พนักงานโจทก์ทราบ ทำให้โจทก์ไม่ได้ไปดูแลการขายทอดตลาดตามกำหนดเดิมเจ้าพนักงานบังคับคดียังได้ขายทอดตลาดทรัพย์ให้ผู้ซื้อทรัพย์ไป เช่นนี้ เป็นเรื่องที่โจทก์ของดการบังคับคดีไว้ชั่วระยะเวลาหนึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292 (3) (เดิม) ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีต้องปฏิบัติตาม การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีต่อไปถือว่าได้กระทำไปโดยมิชอบด้วยกฎหมายเป็นการบังคับคดีที่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติดังกล่าว กรณีมีเหตุสมควรให้เพิกถอนการขายทอดตลาดรายนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยให้ยกคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของโจทก์นั้นยังไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้น และคดีไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของโจทก์ในข้ออื่นอีกเพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไป”
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ

Share