คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3736/2551

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ผู้ร้องไม่มาศาลในวันนัดไต่สวนคำร้องขอคืนของกลางต้องด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 166 ประกอบมาตรา 181 ศาลชั้นต้นชอบที่จะยกฟ้อง และผู้ร้องมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ได้ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าผู้ร้องทราบนัดแล้วไม่มาศาลถือว่าผู้ร้องไม่มีพยานมาศาลและให้ยกคำร้องจึงเป็นการไม่ชอบ แม้ศาลชั้นต้นจะยกคำร้องของผู้ร้องโดยถือว่าผู้ร้องไม่มีพยานมาสืบ ก็ไม่เป็นการตัดสิทธิของผู้ร้องที่จะยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่แล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 57, 67, 91, 102 พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 63 วรรคหนึ่ง, 64 วรรคหนึ่ง และริบรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน กท-4074 สงขลา ของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน กท-4074 สงขลา ของกลาง และผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยการกระทำความผิดของจำเลย ขอให้คืนรถยนต์กระบะของกลางแก่ผู้ร้อง
วันนัดไต่สวนคำร้องวันที่ 1 พฤษภาคม 2549 เวลา 9 นาฬิกา ผู้ร้องไม่มาศาลตามกำหนดนัด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าผู้ร้องทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาล โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ถือว่าผู้ร้องไม่มีพยานมาศาล จึงให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องนัดเวลาไต่สวนคำร้องกับเจ้าพนักงานศาลในเวลา 13.30 นาฬิกา แต่มีการลงเวลานัดผิดพลาด ขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คำร้องของผู้ร้องระบุเวลานัดไว้ชัดเจนและทนายผู้ร้องลงลายมือชื่อทราบนัดแล้ว ถือว่าเป็นความบกพร่องหรือประมาทเลินเล่อของทนายผู้ร้องเอง จึงไม่มีเหตุสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสอง ที่จะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องข้อแรกว่า การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ไม่วินิจฉัยอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายของผู้ร้องที่ว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องของผู้ร้องเนื่องจากผู้ร้องไม่มีพยานมาสืบไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 นั้น เห็นว่า การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 มิได้วินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ร้องดังกล่าว เป็นการมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณา จึงเป็นการไม่ชอบ แต่ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหานี้ไปเสียทีเดียวโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 9 วินิจฉัยอีก เห็นว่า การที่ผู้ร้องไม่มาศาลในวันนัดไต่สวนคำร้องขอคืนของกลางกรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 ประกอบด้วยมาตรา 181 ซึ่งศาลชั้นต้นชอบที่จะยกฟ้องเสียโดยอาศัยเหตุดังกล่าว และผู้ร้องมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ได้ภายในสิบห้าวัน การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าผู้ร้องทราบนัดแล้วไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องถือว่าผู้ร้องไม่มีพยานมาศาล และให้ยกคำร้องจึงเป็นการไม่ชอบ แต่อย่างไรก็ตามแม้ศาลชั้นต้นจะยกคำร้องของผู้ร้องโดยถือว่าผู้ร้องไม่มีพยานมาสืบก็ไม่เป็นการตัดสิทธิของผู้ร้องที่จะยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่แล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องข้อต่อไปว่า มีเหตุสมควรที่จะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่หรือไม่ เห็นว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ในวันเดียวกับวันที่ศาลชั้นต้นยกคำร้องว่า ผู้รับมอบอำนาจของผู้ร้องและทนายผู้ร้องมาศาลเวลา 13.30 นาฬิกา เหตุที่มาศาลในเวลาดังกล่าวเนื่องจากการลงเวลานัดระหว่างเจ้าพนักงานศาลกับผู้ร้องเกิดผิดพลาด ผู้ร้องไม่ได้จำวันนัดผิดพลาดและผู้ร้องฎีกาว่า ผู้ร้องมีพยานบุคคลที่ผู้ร้องขอหมายเรียกให้มาศาลในวัดนัดไต่สวนคำร้อง ซึ่งพยานดังกล่าวมาศาล เวลา 13.30 นาฬิกา โดยพยานแจ้งว่าหมายเรียกพยานไม่ได้ลงเวลาไว้ จึงได้ติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่ศาล ได้รับแจ้งว่าเวลา 13.30 นาฬิกา ซึ่งเมื่อตรวจหมายเรียกพยานบุคคลตามคำร้องของผู้ร้องลงวันที่ 17 มีนาคม 2549 แล้ว ปรากฏว่าหมายเรียกพยานบุคคลของผู้ร้องไม่ได้ลงวันที่ เดือนและเวลา ตรงตามที่ผู้ร้องกล่างอ้างในฎีกา ดังนี้ แม้ในคำร้องขอคืนของกลางจะมีข้อความระบุชัดเจนว่า นัดไต่สวนคำร้องวันที่ 1 พฤษภาคม 2549 เวลา 9 นาฬิกา และทนายผู้ร้องลงลายมือชื่อทราบนัดแล้ว แต่เมื่อข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลงเวลานัดดังกล่าวยังเป็นข้อโต้แย้งกันอยู่ ซึ่งเป็นสาระสำคัญในอันที่จะวินิจฉัยว่ามีการนัดไต่สวนคำร้องคดีนี้เวลา 9 นาฬิกาหรือ 13.30 นาฬิกา หากฟังว่าเจ้าพนักงานศาลลงเวลานัดผิดพลาดก็พอถือได้ว่ามีเหตุสมควรที่จะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นจึงชอบที่จะไต่สวนคำร้องของผู้ร้องเสียก่อน จึงจะวินิจฉัยได้ว่าที่ผู้ร้องไม่มาศาลตามกำหนดนัดมีเหตุสมควรหรือไม่ การที่ศาลล่างทั้งสองด่วนวินิจฉัยสั่งคำร้องของผู้ร้องโดยไม่ได้ไต่สวนให้ได้ความจริงเสียก่อน จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 181 ฎีกาของผู้ร้องข้อนี้ฟังขึ้น”
พิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ของผู้ร้องฉบับลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2549 แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

Share