คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 372/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรรมการปกครองได้จัดตั้งสำนักงานฌาปนกิจกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และสารวัตรกำนันขึ้น โดยวางระเบียบการฌาปนกิจไว้ให้จ่ายเงินค่าอุปการะศพสมาชิกที่ถึงแก่กรรมแก่ทายาทผู้ซึ่งสมาชิกระบุไว้ ในใบสมัครหรือแจ้งการเปลี่ยนแปลงเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ครั้งหลังที่สุด ดังนี้ การขอเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพจะสมบูรณ์ตั้งแต่เมื่อใดต้องเป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการ ฌาปนกิจดังกล่าว เมื่อระเบียบดังกล่าวระบุว่าความเป็นสมาชิกเริ่มแต่วันที่คณะกรรมการดำเนินงานได้มีมติรับเข้าเป็นสมาชิก และสมาชิกภาพย่อมสิ้นสุดลงเมื่อสมาชิกลาออกและได้รับอนุญาตจากประธานกรรมการดำเนินงานแล้ว หาได้ระบุว่าการขอเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพจะสมบูรณ์ต่อเมื่อคณะกรรมการดำเนินงานฌาปนกิจมีมติ หรือเมื่อประธานกรรมการดำเนินงานอนุมัติแล้วด้วยไม่ การขอเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพจึงมีผลสมบูรณ์ตั้งแต่วันที่สมาชิกยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลงทายาทต่อนายอำเภอ แม้ประธานดำเนินงานฌาปนกิจได้มีหนังสือแจ้งว่าการขอเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพจะสมบูรณ์ต่อเมื่อประธานกรรมการดำเนินงานฌาปนกิจอนุมัติแล้วแต่อำนาจในการออกและแก้ไขเปลี่ยนแปลงระเบียบฌาปนกิจเป็นของกรมการปกครอง หนังสือนี้จึงไม่มีผลบังคับ เมื่อสมาชิกได้ยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพ ให้บุคคลใดเป็นทายาทรับเงินค่าอุปการะศพไว้แล้ว แต่ประธานกรรมการดำเนินงานฌาปนกิจได้อนุมัติให้เปลี่ยนได้เมื่อหลังจากสมาชิกถึงแก่กรรม ก็ถือว่าการขอเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพสมบูรณ์ตั้งแต่วันที่สมาชิกยื่นคำร้องแล้ว
เมื่อระเบียบการฌาปนกิจระบุว่า ผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินค่าอุปการะศพได้แก่ทายาทซึ่งสมาชิกระบุไว้ในใบสมัคร หรือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งหลังที่สุด โดยระบุเพียงว่าทายาท มิได้ระบุว่าทายาทโดยธรรม ดังนั้น ทายาทซึ่งสมาชิกระบุไว้ในใบสมัครหรือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งหลังที่สุดย่อมมีสิทธิรับเงินค่าอุปการะศพ โดยหาจำเป็นต้องเป็นทายาทโดยธรรมของสมาชิกไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นทายาทโดยธรรมของนายนุ่ม มีสวัสดิ์ และผู้ที่นายพุ่มระบุไว้ในใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสำนักงานฌาปนกิจกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และสารวัตรกำนันของกรมการปกครองให้เป็นผู้รับเงินค่าอุปการะศพนายพุ่ม มีสวัสดิ์ แต่เมื่อโจทก์ไปขอรับเงินค่าอุปการะศพนายพุ่ม มีสวัสดิ์ จำเลยทั้งสามกลับไม่ยอมจ่ายให้โจทก์ และได้จ่ายให้แก่เจ้าหนี้ของนายพุ่ม มีสวัสดิ์ อันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ ขอให้พิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินค่าอุปการะศพนายพุ่ม มีสวัสดิ์ เป็นเงิน ๑๗,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสามให้การว่า โจทก์ไม่ใช่ภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายพุ่ม มีสวัสดิ์ และไม่ใช่ผู้จัดการศพ ประธานกรรมการสำนักงานฌาปนกิจฯ ได้จ่ายเงินให้แก่บุคคลที่นายพุ่มแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งหลังสุด อันเป็นการกระทำที่ถูกต้องตามระเบียบว่าด้วยการฌาปนกิจและการเงินฌาปนกิจแล้ว จำเลยทั้งสามมิได้ละเมิดสิทธิของโจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า โจทก์เป็นทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าอุปการะศพนายพุ่ม มีสวัสดิ์ แต่ผู้เดียว ให้จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ดำเนินการเสนอชื่อโจทก์ไปให้ประธานกรรมการพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินค่าอุปการะศพให้โจทก์ เมื่อประธานกรรมการอนุมัติและส่งเงินมาให้จำเลยที่ ๓ แล้ว ให้จำเลยจ่ายเงินให้โจทก์ สำหรับจำเลยที่ ๑ ให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีสิทธิขอรับเงินค่าอุปการะศพนายพุ่ม มีสวัสดิ์ ในฐานะทายาทผู้ถูกระบุชื่อ เพราะก่อนนายพุ่มตาย นายพุ่มได้ยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลงทายาทครั้งหลังสุดและประธานกรรมการสั่งอนุมัติแล้ว แต่โจทก์เป็นผู้จัดการศพ จึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอรับเงินค่าอุปการะศพตามระเบียบว่าด้วยการฌาปนกิจ ฯ ข้อ ๑๔ และระเบียบการเงินของสำนักงานฌาปนกิจฯ ข้อ ๑๑ พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า ให้จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ รับเรื่องราวขอรับเงินค่าอุปการะศพของโจทก์เฉพาะในฐานะผู้จัดการศพไว้ดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการฌาปนกิจฯ และระเบียบการเงินฌาปนกิจฯ ดังกล่าวต่อไป คำขออื่นของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในประเด็นที่ว่าโจทก์มีสิทธิยื่นคำร้องขอรับเงินค่าอุปการะศพของนายพุ่ม มีสวัสดิ์ ในฐานะทายาทผู้ถูกระบุชื่อให้เป็นผู้รับเงินค่าอุปการะศพหรือไม่นั้น ปรากฏว่าเมื่อสมัครเป็นสมาชิกฌาปนกิจ นายพุ่ม มีสวัสดิ์ ระบุให้โจทก์และนางสาวบุญเตือน มีสวัสดิ์ เป็นผู้รับเงินค่าอุปการะศพ ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.๑ ต่อมาวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๑๒ นายพุ่ม มีสวัสดิ์ ยื่นคำขอเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพ เป็นโจทก์และนายชนะชัย ภิงคารวัฒน์ ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.๒ ครั้นวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๑๔ นายพุ่ม มีสวัสดิ์ ยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพอีก โดยขอเปลี่ยนเป็นนายชนะชัย ภิงคารวัฒน์ และนางเตือน นามกร ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.๔ และประธานกรรมการดำเนินงานฌาปนกิจอนุมัติให้นายพุ่ม มีสวัสดิ์ เปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพเป็นนายชนะชัย ภิงคารวัฒน์ และนางเตือน นามกร ได้เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๑๔ หลังจากนายพุ่ม มีสวัสดิ์ ถึงแก่กรรมแล้วปรากฏตามเอกสารหมาย ล.๓ ระเบียบว่าด้วยการฌาปนกิจกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และสารวัตรกำนัน ของกรมมหาดไทยระบุกิจการที่จะมีผลสมบูรณ์ต่อเมื่อคณะกรรมการดำเนินการฌาปนกิจอนุมัติ หรือเมื่อประธานกรรมการดำเนินงานฌาปนกิจอนุมัติเฉพาะการสมัครเป็นสมาชิกและความสิ้นสุดแห่งสมาชิกภาพ โดยระบุไว้ในข้อ ๖ วรรคสองว่า “ความเป็นสมาชิกเริ่มแต่วันที่คณะกรรมการดำเนินงานได้มีมติรับเข้าเป็นสมาชิก” และระบุไว้ในข้อ ๘ ว่า “สมาชิกภาพย่อมสิ้นสุดลงในกรณีต่อไปนี้
ฯลฯ
ข. ลาออกจากสมาชิกภาพและได้รับอนุญาตให้ลาออกจากประธานกรรมการดำเนินงานแล้ว
ฯลฯ ”
ระเบียบว่าด้วยการฌาปนกิจดังกล่าวไม่ได้ระบุถึงเรื่องการขอเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพว่าจะสมบูรณ์ตั้งแต่สมาชิกยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพหรือจะสมบููรณ์ต่อเมื่อประธานกรรมการดำเนินงานอนุมัติแล้ว เพียงแต่ประธานดำเนินงานฌาปนกิจมีหนังสือที่ ๑๒๒๑/๒๕๐๔ ลงวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๐๔ แจ้งว่า การขอเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพให้ทำเป็นคำร้องตามแบบคำร้องที่แนบมาพร้อมกับหนังสือดังกล่าว และตามแบบคำร้องดังกล่าวระบุให้ประธานกรรมการดำเนินงานฌาปนกิจเป็นผู้อนุมัติให้เปลี่ยนได้ และประธานกรรมการดำเนินงานฌาปนกิจมีหนังสือที่ ๑๔๖๙/๒๕๐๗ ลงวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๐๗ แจ้งว่าการเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพจะสมบูรณ์ต่อเมื่อประธานกรรมการดำเนินงานฌาปนกิจอนุมัติแล้วศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การขอเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพจะสมบูรณ์ตั้งแต่เมื่อใดนั้น จะต้องเป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการฌาปนกิจกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และสารวัตรกำนัน ของกรมมหาดไทยหรือกรมการปกครอง เมื่อระเบียบว่าด้วยการฌาปนกิจดังกล่าวไม่ได้ระบุว่าการขอเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพจะสมบูรณ์ต่อเมื่อคณะกรรมการดำเนินงานฌาปนกิจมีมติหรือเมื่อประธานกรรมการดำเนินงานฌาปนกิจอนุมัติแล้วอย่างเช่นการสมัครเป็นสมาชิกตามข้อ ๖ วรรคสอง และการขอลาออกจากสมาชิกภาพตามข้อ ๘ ข. ทั้งการขอรับเงินค่าอุปการะศพและการจ่ายเงินที่เหลือจากค่าปลงศพตามที่ระบุไว้ในข้อ ๑๓ และข้อ ๑๔ เฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับทายาทที่สมาชิกยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลงแล้ว ข้อ ๑๓ ระบุว่าให้ทายาทซึ่งสมาชิกได้แจ้งไว้เป็นลายลักษณ์อักษรครั้งหลังที่สุดให้รับเงินค่าอุปการะศพเป็นผู้ยื่นคำร้องขอรับเงินค่าอุปการะศพ และข้อ ๑๔ ระบุว่าให้จ่ายแก่บุคคลที่สมาชิกได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ครั้งหลังที่สุด ข้อ ๑๓ และข้อ ๑๔ มิได้ระบุด้วยว่าทายาทหรือบุคคลที่สมาชิกได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ครั้งหลังที่สุดมีสิทธิยื่นคำร้องขอรับเงินค่าอุปการะศพหรือที่มีสิทธิได้รับเงินส่วนที่เหลือจากค่าปลงศพ จะต้องได้รับอนุมัติจากประธานดำเนินงานฌาปนกิจแล้ว ดังนั้น การขอเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพ มิใช่มีผลสมบูรณ์เมื่อประธานกรรมการดำเนินงานฌาปนกิจอนุมัติแล้ว หากแต่มีผลสมบูรณ์ตั้งแต่วันที่สมาชิกยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพต่อนายอำเภอ อำนาจในการออกและการแก้ไขเปลี่ยนแปลงระเบียบว่าด้วยการฌาปนกิจดังกล่าวเป็นของกรมมหาดไทยหรือกรมการปกครอง ประธานกรรมการดำเนินงานฌาปนกิจไม่มีอำนาจวางระเบียบหรือข้อกำหนดเกี่ยวกับการฌาปนกิจ การที่ประธานกรรมการดำเนินงานฌาปนกิจมีหนังสือแจ้งว่า การเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพจะสมบูรณ์ต่อเมื่อประธานกรรมการดำเนินงานฌาปนกิจอนุมัติแล้วนั้น จึงไม่มีผลบังคับ คำร้องที่นายพุ่ม มีสวัสดิ์ ขอเปลี่ยนแปลงทายาทรับเงินค่าอุปการะศพเป็นนายชนะชัย ภิงคารวัฒน์ และนางเตือน นามกร จึงมีผลสมบูรณ์ และทายาทซึ่งสมาชิกระบุชื่อไว้ในใบสมัครหรือได้แจ้งไว้เป็นลายลักษณ์อักษรครั้งหลังสุดนั้น ตามระเบียบว่าด้วยการฌาปนกิจข้อ ๑๓ ก็ระบุเพียงว่า ทายาทมิได้ระบุว่าทายาทโดยธรรม ทั้งข้อ ๑๔ ข. ยังระบุว่าเงินเหลือจากการปลงศพจ่ายแก่บุคคลที่สมาชิกผู้ถึงแก่กรรมได้ระบุยกเงินค่าอุปการะให้ในใบสมัครหรือแจ้งการเปลี่ยนแปลงเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ครั้งหลังที่สุด การที่ข้อ ๑๔ ไม่ใช้คำว่าทายาท แต่ใช้คำว่าบุคคลก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าทายาทซึ่งสมาชิกระบุไว้ในใบสมัครหรือแจ้งไว้เป็นลายลักษณ์อักษรครั้งหลังที่สุดนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นทายาทโดยธรรมเสมอไป อาจเป็นบุคคลที่ไม่ได้เป็นทายาทโดยธรรมก็ได้ ดังนั้น แม้นายชนะชัย ภิงคารวัฒน์ และนางเตือน นามกร จะไม่ใช่ทายาทโดยธรรมของนายพุ่ม มีสวัสดิ์ แต่เมื่อนายพุ่ม มีสวัสดิ์ แจ้งไว้เป็นลายลักษณ์อักษรครั้งหลังที่สุดให้เป็นทายาทรับเงินค่าอุปการะศพ นายชนะชัย ภิงคารวัฒน์ และนางเตือน นามกร จึงมีสิทธิรับเงินค่าอุปการะศพของนายพุ่ม มีสวัสดิ์ โจทก์จึงหมดสิทธิขอรับเงินค่าอุปการะศพของนายพุ่ม มีสวัสดิ์ ในฐานะทายาทระบุชื่อให้เป็นผู้รับเงินค่าอุปการะศพ คงมีสิทธิขอรับเงินค่าอุปการะศพในฐานะเป็นผู้จัดการศพของนายพุ่ม มีสวัสดิ์ เท่านั้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน

Share