แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยกับพวกร่วมกันทำร้าย ช. และ จ. พวกของผู้ตายก่อน ช. และจ. วิ่งหนีไปโดยจำเลยกับพวกมิได้ติดตามไปทำร้ายซ้ำเติม เมื่อผู้ตายกับ ธ. ขี่รถจักรยานยนต์มาถึง จำเลยกับพวกร่วมกันทำร้ายผู้ตายกับ ธ. อีกโดยพวกจำเลยใช้ไม้ตีผู้ตายล้มลง แล้วจำเลยกับพวกเข้ารุมทำร้ายโดยจำเลยมิได้มีอาวุธ ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยมีสาเหตุกับผู้ตายมาก่อน มูลเหตุที่จะทำร้ายผู้ตายก็มีเพียงว่าจำเลยกับพวกไม่ถูกกับคนในหมู่บ้านเดียวกับผู้ตายจึงทำร้ายฝากมา ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย คงฟังได้เพียงว่าจำเลยมีเจตนาร่วมกับพวกทำร้ายผู้ตายเท่านั้น เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะถูกพวกของจำเลยใช้ไม้และท่อนเหล็กตี จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีกหลายคนร่วมกันใช้ไม้และท่อนเหล็กตีและเตะต่อยกระทืบทำร้ายนายบรรเทิง จิตสามารถ ผู้ตายโดยเจตนาฆ่าและร่วมกันตีทำร้ายนายจรูญ เอี่ยมสะอาด นายธงชัย จั่นทอง ผู้เสียหายจนเป็นเหตุให้นายบรรเทิงถึงแก่ความตาย นายจรูญและนายธงชัย ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๙๑, ๒๘๘, ๒๙๕
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๙๑, ๒๘๘, ๒๙๕ ลงโทษตามมาตรา ๒๘๘ จำคุก ๒๐ ปี ตามมาตรา ๒๙๕ จำคุกกระทงละ ๑ ปี รวมจำคุก ๒๒ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๙๑, ๒๙๐, ๒๙๕ ลงโทษตามมาตรา ๒๙๐ จำคุก ๑๕ ปี ตามมาตรา ๒๙๕ จำคุกกระทงละ ๑ ปี รวมจำคุก ๑๗ ปี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยกับพวกร่วมกันทำร้ายนายชำนาญและนายจรูญผู้เสียหายก่อน นายชำนาญและนายจรูญวิ่งหนีไปโดยจำเลยกับพวกมิได้ติดตามไปทำร้ายซ้ำเติม เมื่อผู้ตายกับนายธงชัยผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์มาถึง จำเลยกับพวกร่วมกันทำร้ายผู้ตายกับนายธงชัยผู้เสียหายอีกเช่นเดียวกัน นายธงชัยผู้เสียหายวิ่งหนีไป ส่วนผู้ตายถูกพวกจำเลยตีด้วยไม้แปล้มลง จำเลยกับพวกจึงเข้าไปรุมทำร้ายผู้ตาย ในการเข้าไปทำร้ายผู้ตายนี้ฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยเป็นคนหนึ่งที่เข้ารุมทำร้ายผู้ตายโดยจำเลยมิได้มีอาวุธ เมื่อฟังประกอบกับพฤติการณ์ที่จำเลยมิได้ทำร้ายซ้ำเติมพวกของผู้ตาย ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยมีสาเหตุกับผู้ตายมาก่อน มูลเหตุที่จะทำร้ายได้ความจากบิดาผู้ตายเพียงว่าจำเลยกับพวกไม่ถูกกับนายวิโรจน์คนในหมู่บ้านเดียวกับผู้ตายจึงตีฝากมา พฤติการณ์ดังกล่าวยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย คงฟังได้เพียงว่าจำเลยมีเจตนาร่วมกับพวกทำร้ายผู้ตายเท่านั้น เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะถูกพวกของจำเลยใช้ไม้และท่อนเหล็กตี จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย แต่การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๐ โดยไม่ได้ระบุวรรคใดนั้น เห็นสมควรระบุวรรคเสียให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า เฉพาะความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๐ วรรคแรก นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์