คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3654/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บิดาของโจทก์เช่าตึกแถวจากผู้ให้เช่า ต่อมาโจทก์ได้รับโอนสิทธิการเช่าต่อบิดาซึ่งถึงแก่กรรม แล้วโจทก์โอนสิทธิการเช่านี้ให้แก่ธนาคารโดยได้เงินตอบแทน 2,000,00 บาท ในประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่า สิทธิการเช่าตึกแถวพิพาทนี้เป็นทรัพย์มรดกหรือไม่ ภาระการพิสูจน์ตกแก่โจทก์ เมื่อโจทก์มิได้ระบุพยานภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และไม่ได้รับอนุญาตจากศาลให้ระบุพยานได้ โจทก์จึงไม่มีสิทธินำพยานเข้าสืบ ซึ่งหมายความว่าโจทก์ไม่สามารถนำสืบให้เห็นได้ตามข้ออ้างที่ว่าสิทธิการเช่าตึกแถวพิพาทเป็นทรัพย์มรดก เช่นนี้การโอนสิทธิเช่าตึกแถวพิพาาทของโจทก์จึงฟังมิได้ว่าเป็นการโอนทรัพย์สินที่ได้มาโดยทางมรดกและมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไร ดังนั้น โจทก์จึงไม่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินค่าตอบแทนจำนวน 2,000,000 บาท มาคำนวณภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42 (9) ที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์จำเลยให้การว่าการประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของเจ้าพนักงานของจำเลยที่ ๑ และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ชอบด้วยกฎหมายแล้ว
โจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันชี้สองสถานไม่น้อยกว่าเจ็ดวันจึงไม่มีสิทธินำพยานเข้าสืบ
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า ประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีคงเหลืออยู่ว่า การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินของจำเลยที่ ๑ และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ ในส่วนที่เกี่ยวกับรายได้ซึ่งเป็นเงินค่าตอบแทนจากการโอนสิทธิการเช่าตึกแถว ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท ที่โจทก์ได้รับจากธนาคารออมสินนั้น เป็นการชอบหรือไม่ โจทก์อ้างว่าโจทก์ได้รับโอนสิทธิการเช่าดังกล่าวมาจากนายดิส กิจไพบูลย์ บิดาโจทก์ จึงเป็นการได้มาโดยทางมรดกและมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไร สิทธิการเช่าตึกแถวเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่งของโจทก์ตามกฎหมายโจทก์โอนสิทธิการเช่าตึกนั้นให้แก่ธนาคารออมสินโดยได้รับเงินค่าตอบแทน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท จึงเป็นการขายสิทธิการเช่าอันเป็นทรัพย์สินของโจทก์โดยมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไร และข้อเท็จจริงที่จำเลยรับแล้วได้ความว่า โจทก์ได้แจ้งขอยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ในแบบยื่นรายการแสดงภาษีเงินได้ประจำปี พ.ศ.๒๕๒๔ แล้ว ส่วนจำเลยต่อสู้ว่า สิทธิการเช่าดังกล่าวเป็นสิทธิเฉพาะตัวของนายดิสผู้ตาย มิใช่เป็นทรัพย์มรดกของผู้ตายดังนั้นการที่โจทก์โอนสิทธิการเช่าให้ธนาคารออมสิน จึงมิใช่เป็นการโอนทรัพย์มรดก เงินค่าตอบแทนที่โจทก์ได้รบจึงมิได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมาคำนวณภาษีเงินได้ตามมาตรา ๔๒ (๙) แห่งประมวลรัษฎากร แต่เงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินได้อันเนื่องมาจากการโอนสิทธิเช่นเดียวกับสิทธิอย่างอื่นตามความหมายในมาตรา ๔๐ (๓) แห่งประมวลรัษฎากร เช่นนี้ ข้อเท็จจริงสำคัญแห่งคดีในประการแรกที่จะต้องวินิจฉัยจึงมีว่า สิทธิการเช่าตึกแถวพิพาทนี้เป็นทรัพย์มรดกหรือไม่ ซึ่งคู่ความจะต้องนำสืบให้เห็นตามข้ออ้างและข้อเถียงของตนเสียก่อนคดีนี้ภาระการพิสูจน์ตกโจทก์ แต่โจทก์มิได้ระบุพยานภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ และไม่ได้รับอนุญาตจากศาลให้ระบุพยานได้ โจทก์จึงไม่มีสิทธินำพยานเข้าสืบ ซึ่งหมายความว่า โจทก์ไม่สามารถนำสืบให้เห็นได้ตามข้ออ้างที่ว่าสิทธิการเช่าตึกแถวพิพาทเป็นทรัพย์มรดก เช่นนี้ การโอนสิทธิการเช่าตึกแถวพิพาทของโจทก์จึงรับฟังมิได้ว่าเป็นการโอนทรัพย์สินที่ได้มาโดยทางมรดก และมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไร ดังนั้น แม้โจทก์จะได้แจ้งขอยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ในแบบยื่นรายการแสดงภาษีเงินได้ไว้ ก็หาทำให้โจทก์ได้รับยกเว้นไม่ต้องหาค่าตอบแทนจำนวน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท ที่โจทก์ได้รับเนื่องในการโอนสิทธิการเช่านั้นมาคำนวณภาษีเงินได้ตามมาตรา ๔๒ (๙) แห่งประมวลรัษฎากรที่บังคับใช้ในขณะนั้นไม่ การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินของจำเลยที่ ๑ และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ จึงชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share