คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

แม้โจทก์จะไม่สามารถนำผู้เสียหายมาเบิกความเป็นพยานได้ก็ตามแต่โจทก์มีคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายซึ่งได้ให้การไว้กับพนักงานสอบสวนมีรายละเอียดต่อเนื่องกันมีเหตุมีผลและทำขึ้นในวันแจ้งความนั่นเองยากที่จะแต่งเติมได้ทันจึงรับฟังคำให้การดังกล่าวประกอบกับพยานแวดล้อมอื่นๆลงโทษจำเลยได้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า จำเลย กรรโชก และ ข่มขืน กระทำ ชำเรา นางสาว สุวรรณาตั้งไพบูลย์ ผู้เสียหาย หลาย ครั้ง จำเลย ให้การ ปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ประกอบมาตรา 285, 337 รวม 2 กระทง จำเลย อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษา กลับให้ ยกฟ้อง โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า มี ปัญหา ว่า จำเลย ข่มขืน กระทำ ชำเราผู้เสียหาย และ กรรโชก ทรัพย์ ผู้เสียหาย หรือ ไม่ โจทก์ มี นาง วีณาตั้งไพบูลย์ ผู้ ใช้ อำนาจ ปกครอง นางสาว สุวรรณา ตั้งไพบูลย์ผู้เสียหาย ยืนยัน ว่า ผู้เสียหาย รับ กับ ตน ว่า ได้ ลัก เงิน และแหวน นาก ไป ให้ จำเลย ตาม ที่ จำเลย บังคับ และ ข่มขืน กระทำ ชำเรามา แล้ว หลาย ครั้ง จึง พา ผู้เสียหาย ไป แจ้งความ ดำเนิน คดี กับจำเลย โจทก์ มี คำ ให้การ ชั้น สอบสวน ของ ผู้เสียหาย และ ของ นาง ฮี๊ดหรือ นิตย์ เภาสมบัติ ปรากฏ ตาม เอกสาร หมาย จ.5, จ.6 ตาม ลำดับ ซึ่งร้อยตำรวจเอก อนันตชัย เรืองกิจ พนักงาน สอบสวน เบิกความ รับรอง ความถูกต้อง แท้จริง ไว้ แล้ว มา ประกอบ มี ใจความ สอดคล้อง ต้องกัน เป็นอันดี คำ ให้การ ของ พยาน ดังกล่าว มี รายละเอียด ต่อเนื่อง กัน มีเหตุ มี ผล และ ทำ ขึ้น ใน วัน แจ้งความ นั้น เอง ยาก ที่ จะ แต่ง เติมได้ ทัน ทั้ง ไม่ ปรากฏ ว่า พยาน นั้นๆ ตลอดจน พนักงาน สอบสวน มี สาเหตุโกรธเคือง กับ จำเลย แต่ อย่างใด คำ ให้การ ชั้น สอบสวน นี้ จึง มีน้ำหนัก และ เนื่องจาก มี เหตุ จำเป็น ติดตาม นำ พยาน ดังกล่าว มาเบิกความ ใน ชั้น ศาล ไม่ ได้ จึง รับ ฟัง คำ ให้การ ชั้น สอบสวน ของพยาน นั้นๆ ประกอบ พยาน หลักฐาน อื่น ของ โจทก์ ได้ นอกจาก นี้ ยังปรากฏ ด้วย ว่า นาย สัมพันธ์ ทั่นเส็ง พยาน โจทก์ อีก ปาก หนึ่งเบิกความ กลับ คำ ให้การ ไม่ ตรง กับ คำ ให้การ ชั้น สอบสวน เพื่อช่วยเหลือ จำเลย ฉะนั้น คำ ให้การ ชั้น สอบสวน ของ พยาน ปาก นี้ ตามเอกสาร หมาย จ.4 จึง รับ ฟัง ประกอบ พยาน หลักฐาน อื่น ของ โจทก์ ได้ซึ่ง คำ ให้การ ดังกล่าว ระบุ ว่า นาย สัมพันธ์ เป็น ผู้ รับ เงิน300 บาท กับ แหวน นาก 1 วง จาก ผู้เสียหาย มา ให้ จำเลย ตาม วัน เวลาและ สถานที่ ตรง กับ ที่ ผู้เสียหาย ให้การ ไว้ ใน ชั้น สอบสวน ด้วยยิ่งกว่า นั้น โจทก์ ยัง มี นายแพทย์ ยอดชาย ปลอดอ่อน ผู้ ตรวจ ชันสูตรผู้เสียหาย ตาม ที่ พนักงาน สอบสวน นำ ส่ง ใน วัน แจ้งความ ยืนยันตาม เอกสาร หมาย จ.3 ว่า ผู้เสียหาย ผ่าน การ ร่วมเพศ มา แล้ว สนับสนุนข้อ กล่าวหา ของ ผู้เสียหาย ที่ ว่า ถูก จำเลย ข่มขืน นั้น ด้วย ทั้งยัง ได้ ความ จาก ทาง นำสืบ ของ โจทก์ จำเลย ด้วย ว่า ระหว่าง พิจารณาคดี ใน ศาลชั้นต้น จำเลย ยอม ชดใช้ ค่าเสียหาย ให้ กับ นาง วีณา เป็นจำนวน 25,000 บาท เพื่อ ให้ คดี เสร็จสิ้น ซึ่ง นาง วีณา พอใจ และถอน คำ ร้องทุกข์ ไป แล้ว ตาม เอกสาร หมาย ล.1 พฤติการณ์ นี้ จึง ชี้ให้ เห็น ชัด ยิ่งขึ้น ว่า จำเลย ได้ กระทำ ความผิด จริง ดัง ข้อกล่าวหา ของ ผู้เสียหาย จึง หา ทาง ระงับ คดี เพราะ ถ้า จำเลย เป็นผู้ บริสุทธิ์ จริง ใน ฐานะ ที่ เป็น ครู ยิ่ง ต้องการ ให้ มี การซักฟอก พิสูจน์ ตนเอง ให้ พ้น มลทิน มากกว่า พยานหลักฐาน ของ โจทก์แม้ จะ มี แต่ พยาน แวดล้อม พยาน บอกเล่า และ พฤติการณ์ ต่างๆ ของจำเลย ตลอด จน เหตุผล มา ประกอบ เข้า ด้วยกัน ก็ มี น้ำหนัก พอ ฟังลงโทษ จำเลย ได้ ที่ จำเลย นำสืบ ตนเอง ปฏิเสธ ความผิด ก็ ไม่ มีพยาน หลักฐาน อื่น สนับสนุน หัก ล้าง พยาน หลักฐาน ของ โจทก์ ไม่ ได้และ เนื่องจาก คดี นี้ เป็นคดี ที่ มิ อาจ ยอม ความ กัน ได้ เนื่องจากเป็น ข้อหา กรรโชก ทรัพย์ และ ข่มขืน กระทำ ชำเรา แก่ ศิษย์ แม้ ฟังได้ ว่า มี การ ถอน คำ ร้องทุกข์ แล้ว ก็ หา ทำ ให้ สิทธิ ฟ้อง คดีของ โจทก์ ระงับ ลง แต่ อย่างใด ไม่ ที่ ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยกฟ้อง มานั้น ไม่ ต้อง ด้วย ความเห็น ของ ศาลฎีกา ฎีกา โจทก์ ฟัง ขึ้น
พิพากษา กลับ ให้ ลงโทษ จำเลย และ บังคับ คดี ไป ตาม คำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share