แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย มิได้ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานเสพและจำหน่ายเฮโรอีนโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ไซลิงค์พร้อมเข็มฉีดยาและเงินที่จำเลยทั้งสองได้มาจากการจำหน่ายเฮโรอีน จึงมิใช่เครื่องมือ เครื่องใช้ หรือวัตถุอื่นซึ่งจำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้องดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 102 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 จึงไม่อาจริบได้แม้จำเลยทั้งสองไม่ได้ฎีกา แต่ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาเห็นสมควรหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5),246 และ 247 ประกอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 97, 102ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ริบของกลาง และเงินฝากธนาคารทั้งสองแห่งจำนวน 32,570.05 บาท และเพิ่มโทษจำเลยที่ 1 ตามกฎหมายกับให้นับโทษจำเลยที่ 1 ติดต่อกับโทษของจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 5246/2533 ของศาลชั้นต้น และในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1526/2535 ของศาลอาญาด้วย
จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ และรับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษตามฟ้อง และเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในสองคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่งวรรคสอง และมาตรา 66 วรรคสอง ให้จำคุกจำเลยที่ 1 ตลอดชีวิตเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่งตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 97 จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78แต่ส่วนของการเพิ่มเท่ากับส่วนของการลดจึงไม่เพิ่มไม่ลด คงจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ตลอดชีวิต สำหรับจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบด้วยมาตรา 53 คงจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้มีกำหนด 33 ปี 4 เดือนนับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1526/2535ของศาลอาญา ริบของกลางและเงินฝากของจำเลยที่ 1 ที่ธนาคารทั้งสองแห่งเป็นเงิน 32,570.05 บาท
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลดโทษจำเลยที่ 1กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบด้วยมาตรา 53คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 25 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 มีเฮโรอีนดังกล่าวไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายแล้ว การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นความผิดตามฟ้อง
ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ริบของกลางคือไซลิงค์พร้อมเข็มฉีดยา5 ชุด ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการเสพเฮโรอีนของจำเลยทั้งสองและเงินจำนวน 70,510 บาท กับเงินฝากธนาคาร 2 แห่ง จำนวน32,570.05 บาท ที่จำเลยทั้งสองได้มาจากการจำหน่ายเฮโรอีนและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนในส่วนนี้นั้น เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายมิได้ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานเสพและจำหน่ายเฮโรอีนโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ไซลิงค์พร้อมเข็มฉีดยาและเงินดังกล่าวจึงมิใช่เครื่องมือ เครื่องใช้หรือวัตถุอื่นซึ่งจำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้องดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 102 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 จึงไม่อาจริบได้แม้จำเลยทั้งสองไม่ได้ฎีกา แต่ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาเห็นสมควรหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5), 246และ 247 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอให้ริบไซลิงค์พร้อมเข็มฉีดยา5 ชุด และเงินจำนวน 70,510 บาท กับเงินฝากธนาคาร 2 แห่งจำนวน 32,570.05 บาท ของกลาง นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์