คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า สามีจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์อยู่ 3 รายการแล้วบรรยายหนี้ทั้ง 3 รายการนั้นแล้วว่า สามีจำเลยกับโจทก์ได้ตกลงกันให้สามีจำเลยจ่ายเงินชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของโจทก์เสียจำนวนหนึ่ง โดยไม่ระบุตัวเจ้าหนี้มาในฟ้องเงินที่เหลือให้รักษาไว้เพื่อมอบแก่โจทก์เมื่อโจทก์ต้องการ แต่ยังไม่ทันได้จัดการจ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้ของโจทก์และตัวโจทก์สามีจำเลยตายเสียก่อน จำเลยเป็นผู้ครอบครองมรดกไว้แต่ผู้เดียว จึงขอให้จำเลยชำระหนี้รายนี้ ถือว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 172 แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายบุญธรรม สุขสถิตย์สามีจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์อยู่ ๓ รายการคือ
๑. เมื่อเดือน ๑๒ พ.ศ. ๒๔๙๑ นายบุญธรรมได้ซื้อไถโจทก์ไป ๒๐ สำหรับเป็นเงิน ๒๐๐๐ บาท ยังไม่ได้ชำระ
๒. เมื่อเดือน ๔ พ.ศ.๒๔๙๒ นายบุญธรรมได้รับมอบหมายจากโจทก์ให้ไปเก็บเงินลูกหนี้ของโจทก์ ๓ รายได้เงินมารวม ๓๓๐๐ บาท
๓. เมื่อเดือน ๔ พ.ศ. ๒๔๙๒ นายบุญธรรมได้ซื้อไถของโจทก์ไปอีก ๗๕ คันเป็นเงิน ๓๐๐๐ บาท ยังไม่ได้ชำระหนี้ ๓ รายรวมเป็นเงิน ๘๓๐๐ บาท นายบุญธรรมกับโจทก์ตกลงกันว่าให้นายบุญธรรมจ่ายเงินชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้โจทก์ ๕๐๐๐ บาท เหลืออีก ๓๓๐๐ บาทให้นายบุญธรรมรักษาไว้เพื่อมอบแก่โจทก์ เมื่อโจทก์ต้องการแต่นายบุญธรรมยังไม่ได้ชำระหนี้แก่เจ้าหนี้โจทก์ และยังไม่ได้ชำระแก่ตัวโจทก์ตามข้อตกลง นายบุญธรรมถึงแก่กรรมเสีย จำเลยเป็นผู้ครอบครองมรดกของนายบุญธรรมไว้ จึงขอให้จำเลยชำระเงินรายนี้
จำเลยปฏิเสธและตัดฟ้องว่า เคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ฟ้องของโจทก์เฉพาะที่ไม่ระบุชื่อเจ้าหนี้ซึ่งให้นายบุญธรรมนำเงิน ๕๐๐๐ บาทไปชำระนั้นเป็นฟ้องเคลือบคลุม ทำให้จำเลยไม่สามารถต่อสู้คดีได้โดยบริบรูณ์และเสียเปรียบในการแก้คดี เพราะนายบุญธรรมอาจจะชำระเงิน ๕๐๐๐ บาท ให้เจ้าหนี้โจทก์แล้วก็ได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม พิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฟ้องของโจทก์แสดงโดยแจ้งขัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อเหล่านั้นไว้ถูกต้องชอบด้วยวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๗๒

Share