คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 358/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ขายนาให้เขาไปแล้ว แล้วกลับไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าตนมีอำนาจโอนได้ขอแก้ทะเบียนโอนยกให้แก่ผู้อื่นอีกมีผิดฐานแจ้งความเท็จ วิธีพิจารณาอาชญาอย่างไรเรียกศาลล่างวินิจฉัยผิดประเด็นแลผิดวิธีพิจารณา อำนาจศาลฎีกา ประเด็นที่ศาลล่างยังไม่ได้วินิจฉัยขึ้นมา ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยแลพิพากษาเสียเองได้ ฎีกาอุทธรณ์ ปัญหากฎหมาย ข้อที่ศาลล่างวินิจฉัยผิดประเด็นหรือผิดต่อวิธีพิจารณาเป็นปัญหากฎหมายซึ่งคู่ความฎีกาได้

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ขายนาให้ พ.๒ แปลงแล้วต่อมาได้นำความเท็จไปแจ้งต่อกรมการอำเภอขอโอนขายแลยกที่นาให้แก่ ม.ส.ฝ. เจ้าพนักงานหลงเชื่อจึงแก้ทะเบียนให้ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายอาชญามาตรา ๓๒๗ – ๑๑๘ – ๒๒๖ -๗๑
ศาลเดิมฟังว่านาแปลงที่จำเลยโอนให้ ส.แล ม. นั้นเป็นคนละแปลงกับที่ขายให้ พ.ส่วนแปลงที่ ๑ ที่ยกให้ ฝ. เป็นนาที่ได้ขายให้ พ. ไปแล้วแลเห็นว่าไม่เป็นผิดตามโจทก์ฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยได้ยกที่นาให้ ฝ. จริงเมื่อจำเลยไปแจ้งความขอแก้ทะเบียนเป็นชื่อ ฝ. จึงไม่ได้แจ้งความเท็จไม่เป็นผิดตาม ม.๑๑๘ – ๒๒๖ หรือฐานบุกรุก
ศาลฎีกาเห็นว่าประเด็นอยู่ที่จำเลยแสดงว่ามีอำนาจโอนให้ หาใช่อยู่ที่การโอนไม่ แต่ศาลล่างกลับไปวินิจฉัยถึงการโอนซึ่งเป็นการวินิจฉัยผิดประเด็นผิดวิธีพิจารณา เมื่อศาลล่างยังไม่ได้วินิจฉัยประเด็นข้อนี้ศาลฎีกาย่อมวินิจฉัยในข้อนี้ได้ ซึ่งทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยโอนที่นารายนี้ยกให้ ฝ. โดยรู้แล้วว่าไม่มีอำนาจจะทำได้ เพราะได้ขายใ้ห พ.ไปแล้ว จำเลยยังไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานขอโอนให้ ฝ. โดยแจ้งว่าตนมีอำนาจโอนได้ ซึ่งเป็นความเท็จ จำเลยจึงมีผิดฐานแจ้งความเท็จตามมาตรา ๑๑๘ ให้จำคุกจำเลย ๑ เดือน

Share