คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3543/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดไปโดยมิได้แจ้งให้จำเลยที่ 3 ทราบคำสั่งของศาลที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดและวันขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 306 จึงเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งภาค 4 ลักษณะ 2 ว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งแล้ว

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสามรับผิดตามสัญญาต่อมาคู่ความได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน3,130,955.73 บาท พร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ หากผิดนัดจำเลยที่ 3ยอมให้ยึดทรัพย์จำนองของจำเลยที่ 3 ออกขายทอดตลาด ต่อมาจำเลยทั้งสามผิดนัด โจทก์ขอหมายบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำนองของจำเลยที่ 3 พร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2529 ปรากฏว่านายสุวิทย์ แก้วศักดาเป็นผู้ซื้อได้
จำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยตีราคาประเมินต่ำและขายทอดตลาดในราคาต่ำ ทั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่เคยแจ้งคำสั่งศาลและวันขายทอดตลาดให้แก่จำเลยที่ 3 ทราบทำให้จำเลยที่ 3 เสียหายไม่สามารถเข้ามาโต้แย้งหรือใช้สิทธิของตนในการขายทอดตลาดได้ ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดและขายทอดตลาดใหม่
นายสุวิทย์ แก้วศักดา ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ได้เข้าประมูลสู้ราคาในการขายทอดตลาดโดยสุจริต ราคาที่ซื้อได้สูงกว่าราคาประเมิน จำเลยที่ 3 ทราบวันนัดขายทอดตลาดแล้ว แต่ไม่หาผู้ซื้อมาสู้ราคา ทั้งไม่มาฟังการขาย ไม่มีเหตุสมควรที่จะยกเลิกการขายขอให้ยกคำร้อง
โจทก์และเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่คัดค้าน
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยกเลิกการขายทอดตลาดและให้ขายทอดตลาดใหม่
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 3 มีภูมิลำเนาตามคำฟ้องว่าอยู่บ้านเลขที่ 139-141 ถนนจรัสเมือง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวันกรุงเทพมหานคร กับตามคำร้องในกรณีนี้ว่า อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 4ตำบลบางโพ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยที่ 3 นั้น เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ส่งประกาศขายทอดตลาดไปให้จำเลยที่ 3 ทราบโดยวิธีปิดประกาศที่บ้านเลขที่203/10-11 ถนนข้าวหลาม แขวงตลาดน้อย (สามแยก) เขตสัมพันธ์วงศ์(สำเพ็ง) กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่ทรัพย์สินที่จะทำการขายทอดตลาดตั้งอยู่ ผู้คัดค้านไม่สามารถนำสืบพิสูจน์ได้ว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานของจำเลยที่ 3 ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่า จำเลยที่ 3 มีภูมิลำเนาอยู่ในตึกแถวที่จะขายทอดตลาดแต่มีภูมิลำเนาอยู่ตามที่ปรากฏในคำฟ้องและคำร้องซึ่งสามารถส่งประกาศขายทอดตลาดไปในที่ดังกล่าวได้ แต่ก็หาได้กระทำไม่จึงฟังได้ว่า จำเลยที่ 3 ไม่ทราบวันขายทอดตลาด ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 306 กำหนดให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหน้าที่แจ้งคำสั่งของศาลที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ยึดและวันขายทอดตลาดแก่บรรดาผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาด เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดไปโดยมิได้แจ้งให้จำเลยที่ 3 ทราบคำสั่งของศาลที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดและวันขายทอดตลาด จึงเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ภาค 4 ลักษณะ 2 ว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งแล้ว
พิพากษายืน

Share