แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทรัพย์สินรายหนึ่งอาจจำนองประกันหนี้หลายรายได้ หนี้ที่ประกันรายใดระงับสิ้นไป สัญญาจำนองที่ประกันหนี้รายนั้นย่อมระงับสิ้นไปเฉพาะราย และผู้จำนองมีสิทธิที่จะชำระหนี้เพื่อให้สัญญาจำนองรายใดรายหนึ่งระงับไปโดยไม่จำต้องชำระหนี้ทุกราย
การที่โจทก์ฟ้องบังคับจำเลยให้ชำระหนี้ไถ่ถอนจำนองซึ่งประกันต่างรายซึ่งต้องว่ากล่าวเป็นราย ๆ ไปแล้ว การบังคับคดีก็ต้องแยกต่างหากจากกัน ฉะนั้นเมื่อเป็นหนี้ต่างรายแม้หลักทรัพย์ประกันรายเดียวกัน จำเลยผู้จำนองย่อมมีสิทธิที่จะชำระหนี้เฉพาะคดีนี้เพื่อให้สัญญาจำนองที่ประกันหนี้ในคดีนี้ระงับไปได้ ส่วนที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นอีกคดีหนึ่งนั้น หากศาลพิพากษาว่าจำเลยเป็นหนี้โดย ได้จำนองทรัพย์รายเดียวกับที่จำนองในคดีนี้เป็นประกัน โจทก์ก็มีสิทธิที่จะบังคับจำนองเอาแก่ทรัพย์สินนั้นอีกได้ จึงไม่มีเหตุที่จะรอคดีนี้ไว้ฟังผลของคดีอื่น
ย่อยาว
กรณีสืบเนื่องมาจากจำเลยทั้งสองทำสัญญาประนีประนอมยอมความร่วมกันยอมชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอม ครั้นครบกำหนดตามสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์ยึดทรัพย์จำนองเพื่อขายทอดตลาดโดยอ้างว่าจำเลยทั้งสองผิดนัด
จำเลยที่ ๒ ยื่นคำร้องว่า ผ่อนชำระเงินให้โจทก์ถูกต้องไม่เคยผิดนัดและก่อนครบกำหนด ๑ ปี จำเลยขอชำระหนี้ทั้งหมดเพื่อไถ่จำนอง แต่โจทก์ปฏิเสธไม่ยอมรับชำระหนี้ ขอให้สั่งเพิกถอนการยึดและยอมรับชำระหนี้ไถ่ถอนจำนอง
โจทก์คัดค้านว่า นอกจากจำเลยที่ ๒ จำนองทรัพย์พิพาทเป็นประกันหนี้ในคดีนี้แล้ว ยังจำนองเป็นประกันหนี้ของจำเลยที่ ๑ ตามสัญญาทรัสต์รีซีทอีกฉบับหนึ่งซึ่งโจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยทั้งสองตามคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ๖๓๑๔/๒๕๒๕ กรณีที่จำเลยที่ ๒ ขอชำระหนี้เพื่อไถ่ถอนจำนองทรัพย์พิพาท ต้องชำระหนี้ทั้งสองคดี ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นสั่งไต่สวน
วันนัดไต่สวน ศาลชั้นต้นสั่งให้รอฟังผลของคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ๖๓๑๔/๒๕๒๕
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่ง ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ ๒แล้วมีคำสั่งต่อไป
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า นอกจากโจทก์ฟ้องจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ บังคับให้ชำระหนี้ไถ่ถอนจำนองในคดีนี้แล้ว โจทก์ได้ฟ้องจำเลยทั้งสองให้ชำระหนี้ไถ่ถอนจำนองที่ดินแปลงเดียวกันเป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ๖๓๑๔/๒๕๒๕ อีกคดีหนึ่ง จำเลยที่ ๒ ขอไถ่ถอนจำนองคดีนี้ โจทก์คัดค้านให้จำเลยที่ ๒ ไถ่ถอนจำนองที่โจทก์ฟ้องอีกคดีหนึ่งด้วย และวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ทรัพย์สินรายหนึ่งอาจจำนองประกันหนี้หลายรายได้ หนี้ที่ประกันรายใดระงับสิ้นไป สัญญาจำนองที่ประกันหนี้รายนั้นย่อมระงับสิ้นไปเฉพาะราย และผู้จำนองมีสิทธิที่จะชำระหนี้เพื่อให้สัญญาจำนองรายใดรายหนึ่งระงับไปโดยไม่จำต้องชำระหนี้ทุกราย การที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองให้ชำระหนี้ไถ่ถอนจำนองซึ่งประกันหนี้ต่างรายซึ่งต้องว่ากล่าวเป็นราย ๆ ไปแล้ว การบังคับคดีก็ต้องแยกต่างหากจากกัน ฉะนั้นเมื่อเป็นหนี้ต่างรายแม้หลักทรัพย์ประกันรายเดียวกัน จำเลยที่ ๒ ผู้จำนองย่อมมีสิทธิที่จะชำระหนี้เฉพาะคดีนี้เพื่อให้สัญญาจำนองที่ประกันหนี้ในคดีนี้ระงับไปได้ ส่วนที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองอีกคดีหนึ่งนั้น หากคดีถึงที่สุดศาลพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองเป็นหนี้และจำเลยที่ ๒จำนองทรัพย์รายเดียวกับที่จำนองในคดีนี้เป็นประกัน โจทก์มีสิทธิที่จะบังคับคดีในฐานะเจ้าหนี้ผู้รับจำนองเอาแก่ทรัพย์สินที่จำเลยที่ ๒ ไถ่ถอนจำนองในคดีนี้แล้วได้ จึงไม่มีเหตุที่จะรอฟังผลคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ๖๓๑๔/๒๕๒๕ ของศาลแพ่ง
พิพากษายืน.