คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3506/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ถือโจทก์ผู้ทรงได้สลักหลังเช็คนั้นโดยมิได้ ระบุข้อความใด ๆไว้แล้วนำไปขายลดให้แก่บุคคลภายนอกผู้รับซื้อเช็คไว้ ย่อมเป็นผู้ทรงการสลักหลังของโจทก์เป็นเพียงประกันหนี้ตามเช็คที่จำเลย จะต้องรับผิดต่อผู้ทรงโจทก์ย่อมอยู่ในฐานะผู้ค้ำประกันหนี้ตามเช็ค ของจำเลยเมื่อผู้ทรงรับเงินตามเช็คไม่ได้และโจทก์ได้ชำระหนี้ให้แก่ผู้ทรง แทนจำเลยไปย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้ทรงที่จะไล่เบี้ยเอาจากจำเลยสิทธิเรียกร้องของโจทก์ดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา164 กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา1002 ซึ่งบัญญัติไว้แต่เฉพาะกรณีที่ ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สลักหลังและผู้สั่งจ่ายและโจทก์ก็มิได้อยู่ในฐานะ ผู้สลักหลังเช็คตามมาตรา 1003

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็ค ซึ่งจำเลยเป็นสั่งจ่าย โจทก์สลักหลังขายลดให้แก่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด เมื่อเช็คถึงกำหนด ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายโจทก์จึงได้ชำระเงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด แล้วรับเช็คคืนและรับช่วงสิทธิไล่เบี้ยจากจำเลย จำเลยไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลย
จำเลยให้การว่า เช็คพิพาทเป็นเช็คผู้ถือ โจทก์สลักหลังขายลดไปเป็นการอาวัลผู้สั่งจ่าย จึงไม่อยู่ในฐานะผู้สลักหลังที่จะฟ้องไล่เบี้ย คดีโจทก์ขาดอายุความเพราะไม่ฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันสั่งจ่าย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 1,083,647.26 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ซื้อ โจทก์สลังหลังเช็คโดยมิได้ระบุข้อความใด ๆ ไว้ แล้วนำไปขายลดให้แก่บุคคลภายนอก ผู้รับซื้อเช็คไว้ย่อมเป็นผู้ทรง การสลักหลังของโจทก์จึงเป็นเพียงประกันหนี้ตามเช็คพิพาทที่จำเลยจะต้องรับผิดต่อผู้ทรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 921 ประกอบด้วยมาตรา 989 โจทก์ย่อมอยู่ในฐานะผู้ค้ำประกันหนี้ตามเช็คของจำเลย เมื่อโจทก์ได้ชำระหนี้แทนจำเลยไปแล้ว ย่อมมีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากจำเลย และเข้ารับช่วงสิทธิของผู้ทรงเช็คบรรดามีเหนือจำเลยด้วย เมื่อไม่ปรากฏว่ามีกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะให้ผู้รับช่วงสิทธิจากผู้ทรงจะต้องฟ้องร้องภายในกำหนดเวลาเท่าใด และความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติไว้แต่เพียงว่า ในคดีที่ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สลักหลังและผู้สั่งจ่ายห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นหนึ่งปี มิได้กล่าวถึงบุคคลอื่นใดอีกนอกจากผู้ทรงตั๋วเงิน บทบัญญัติดังกล่าวจึงใช้บังคับเฉพาะแก่ผู้ทรงตั๋วเงินเท่านั้นโจทก์เป็นผู้รับช่วงสิทธิมาจากผู้ทรงเช็คพิพาท สิทธิเรียกร้องของโจทก์ในฐานะผู้รับช่วงสิทธิมาจากผู้ทรงจึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164 คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์อยู่ในฐานะเป็นผู้สลักหลังเช็คด้วย สิทธิเรียกร้องของโจทก์ตกอยู่ภายใต้บังคับแห่งอายุความหกเดือนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1003 ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ส่วนที่ว่าคดีโจทก์ไม่ขาดอายุความนั้น ศาลฎีกาเห็นด้วยในผล
พิพากษายืน

Share