คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2525

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องบังคับจำนอง จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแต่มิได้ขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิพากษาบังคับจำเลยตามฟ้อง ข้อที่จำเลยอุทธรณ์ว่าผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ไม่มีอำนาจมอบให้ทนายโจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองแทน การบอกกล่าวบังคับจำนองจึงไม่มีผลนั้น เป็นการอุทธรณ์ในข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ต้องห้ามตามป.ว.พ. ม. 225

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 77,145.62 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ หากไม่ชำระ ให้นำที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระแก่โจทก์จนครบ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์จำเลย จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีนี้จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การศาลชั้นต้นมีคำสั่งแสดงว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ จำเลยมาศาลในวันเริ่มต้นสืบพยานและถามค้านพยานโจทก์ แต่จำเลยไม่ได้สาบานตนให้การเป็นพยานเอง ทั้งปรากฏในรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นว่าจำเลยแถลงไม่ติดใจสืบพยาน ศาลชั้นต้นจึงพิพากษาบังคับจำเลยตามฟ้องจำเลยฎีกา ความว่า คดีนี้จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์จะต้องมีหน้าที่พิสูจน์ให้ศาลเห็นในทุกประเด็นทุกกรณี และเมื่อปรากฏว่าการบอกกล่าวบังคับจำนองเป็นไปโดยไม่ชอบ ศาลก็ต้องยกฟ้อง ไม่จำเป็นว่าจำเลยจะให้การต่อสู้ไว้หรือไม่ ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยมิได้ให้การต่อสู้คดีไว้ ทั้งมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน พิพากษายกอุทธรณ์จำเลย เป็นการวินิจฉัยไม่ชอบนั้น ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จำเลยจะยกขึ้นอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์นั้น จำเลยจะต้องกล่าวไว้แจ้งชัดในอุทธรณ์ และต้องเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ดังนั้นที่จำเลยอุทธรณ์ว่าผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ไม่มีอำนาจมอบให้ทนายโจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองแทนการบอกกล่าวบังคับจำนอง จึงไม่มีผล จึงมิใช่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น”

พิพากษายืน

Share