คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ได้นำเจ้าพนักงานกองหมายยึดที่ดินมีชื่อจำเลยและภรรยาเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ และทำการขาดทอดตลาดได้เงินมา และกองหมายได้กันเงินส่วนของภรรยาไว้ โจทก์ยื่นคำร้องว่าทรัพย์รายนี้เป็นสินสมรส ขอให้ศาลสั่งกองหมายแก้บัญชีโดยไม่ต้องหักเงินเป็นส่วนของภรรยาศาลชั้นต้นสอบโจทก์และเจ้าพนักงานกองหมายและมีคำสั่งว่า ที่ดินที่ขายเป็นสินบริคณห์ ให้กองหมายจ่ายเงินค่าขายที่ทั้งหมดชำระหนี้ โจทก์ตามคำพิพากษา นั้นหาเป็นการชอบไม่ เพราะภรรยามีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับสามี ถือได้ว่าภรรยาเป็นผู้มีส่วนได้เสียตาม ป.วิ.พ. มาตรา 280 (2) แต่ศาลชั้นต้นไม่เคยไต่สวนหรือสอบผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์แต่ประการใด จึงสมควรให้โอกาสแก่ภรรยาของจำเลยจะโต้แย้งประการใดหรือไม่

ย่อยาว

คดีนี้ คู่ความตกลงประนีประนอมยอมความ ศาลแพ่งพิพากษาตามยอม ให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์ ๆ ได้ขอบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลย คือ ที่ดินโฉนดที่ ๔๒๔๕ มีชื่อหลวงเกรียงศักดิ์พิชิตกับนางเกรียงศักดิ์พิชิตถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน เจ้าพนักงานกองหมายขายทอดตลาดแล้วได้กันเงินส่วนของนางเกรียงศักดิ์พิชิตผู้มีชื่อในโฉนดไว้ โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งว่า กองหมายทำบัญชีแบ่งเงินค่าขายที่ดินเป็นส่วนของนางเกรียงศักดิ์พิชิต ไม่ชอบ เพราะหลวงเกรียงศักดิ์พิชิตและนางเกรียงศักดิ์พิชิตสมรสก่อนใช้ ป.พ.พ.บรรพ และยังคงอยู่ร่วมกัน ทรัพย์รายนี้ก็เป็นสินสมรส ขอให้กองหมายแก้บัญชีโดยไม้ต้องหักเงินส่วนของนางเกรียงศักดิ์พิชิต
ศาลแพ่งสอบโจทก์และเจ้าพนักงานกองหมาย แล้วมีคำสั่งให้กองหมายจ่ายเงินค่าขายทั้งหมดชำระหนี้โจทก์ตามคำพิพากษา
นางเกรียงศักดิ์พิชิตอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการให้ถูกต้อง แล้วพิจารณาสั่งใหม่ตามรูปความ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ดินแปลงขายทอดตลาดมีชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนด คือ หลวงเกรียงศักดิ์พิชิตและนางเกรียงศักดิ์พิชิต ถือได้ว่านางเกรียงศักดิ์พิชิตเป็นผู้มีส่วนได้เสียตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๘๐ (๒) แต่ศาลแพ่งไม่เคยไต่สวนหรือสอบผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์แต่ประการใด ข้อที่โจทก์ว่าทรัพย์ที่ขายเป็นสินบริคณห์ก็ดี หรือว่าสามีภรรยาคู่นี้สมรสกันเมื่อใด ล้วนเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์สืบทราบมาฝ่ายเดียวทั้งสิ้น จึงสมควรให้โอกาสแก่นางเกรียงศักดิ์พิชิตจะได้โต้แย้งประการใดหรือไม่
พิพากษายืน

Share