แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องว่าจำเลยมีไม้สักแปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯมาตรา 48, 73 และมีไม้สักอันยังมิได้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามมาตรา 69 จำเลยให้การรับสารภาพ. แม้จำเลยกระทำผิดในวันเดียวกันก็เป็นการกระทำผิดสองกรรมสองกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๔ เวลากลางวัน จำเลยกับพวกที่หลบหนีได้ร่วมกันแปรรูปไม้สักอันเป็นไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมายมีไม้สักแปรรูปและไม้สักท่อนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๗,๔๘, ๖๙, ๗๓, ๗๔, ๗๔ ทวิ, ๗๔ จัตวา ฯลฯ ริบไม้และเครื่องอุปกรณ์ที่ใช้ในการแปรรูปของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๗, ๔๘, ๖๙, ๗๓, ๗๔, ๗๔ ทวิ, ๗๔ จัตวา ฯลฯ ฐานแปรรูปไม้สักโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก ๒ ปี ฐานมีไม้สักแปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก ๒ ปี ฐานมีไม้สักท่อนโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก ๒ ปี รวม ๓ กระทงจำคุก ๖ ปี จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก ๓ ปี ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าความผิดฐานมีไม้สักแปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตกับฐานมีไม้สักท่อนโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดซึ่งจำเลยได้กระทำคราวเดียวกันหรือต่อเนื่องกันเป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทนั้น เห็นว่า โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกที่หลบหนีมีไม้สักแปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๔๘, ๗๓ กระทงหนึ่ง และมีไม้สักอันยังมิได้แปรรูปซึ่งไม่มีรอยดวงตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายและโดยจำเลยพิสูจน์ไม่ได้ว่าได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ อีกกระทงหนึ่ง เป็นฟ้องที่บรรยายการกระทำความผิดหลายบทหลายกระทงต่างกรรมกัน แม้โจทก์จะฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดในวันเดียวกันก็มิได้หมายความว่าการกระทำผิดหลายกรรมนี้จะเกิดขึ้นในวันเดียวกันไม่ได้การกระทำผิดดังกล่าวจึงมิใช่เป็นเรื่องกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทดังที่จำเลยฎีกา แต่เป็นการกระทำผิดสองกรรมสองกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๗๖/๒๕๑๑ ระหว่าง พนักงานอัยการจังหวัดพิจิตร โจทก์ นายทา เรืองรอง จำเลยศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน