แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยได้ความว่าจำเลยรู้เห็นใกล้ชิดกับเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ แต่ในชั้นศาลจำเลยกลับเบิกความอันเป็นเท็จว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุขณะเกิดเหตุ หากจำเลยเบิกความไปตามที่รู้เห็นดังที่ให้การไว้ในชั้นสอบสวนจำเลยย่อมเป็นพยานที่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์สนับสนุนคำของพยานโจทก์ปากอื่นให้มีน้ำหนักมั่นคงยิ่งขึ้นอันอาจทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไปในทางตรงข้ามได้ ดังนี้ แม้ศาลจะมิได้หยิบยกคำเบิกความของจำเลยขึ้นวินิจฉัย คำเบิกความอันเป็นเท็จของจำเลยก็เป็นข้อสำคัญในคดี
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซึ่งเป็นพยานโจทก์ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 732/2523ของศาลทหารกรุงเทพ (ศาลจังหวัดสมุทรปราการ) ได้เบิกความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในคดี เห็นเหตุให้ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคำเบิกความของจำเลยไม่ใช่ข้อความอันเป็นเท็จและไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี เพราะในชั้นสอบสวนก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยให้การว่าเห็นนายปัญญาหรือมุ้ยยิงผู้ตาย ในชั้นเบิกความต่อศาลก็ว่าไม่เห็นผู้ใดยิงผู้ตาย อีกทั้งคดีก่อนศาลก็มิได้หยิบยกคำเบิกความของจำเลยขึ้นมาวินิจฉัยนั้นเห็นว่าตามคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยได้ความว่าจำเลยรู้เห็นใกล้ชิดกับเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ แต่ในชั้นศาลจำเลยกลับเบิกความว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุขณะเกิดเหตุขึ้นอันเป็นข้อความที่โจทก์ฟ้องยืนยันว่าจำเลยเบิกความอันเป็นเท็จต่อศาล ส่วนข้อที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างว่าจำเลยมิได้กล่าวข้อความเท็จ ก็เป็นข้อเท็จจริงคนละกรณีกับที่โจทก์กล่าวหาจำเลยในคดีนี้ สำหรับข้อที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าในคดีก่อนศาลมิได้หยิบยกคำเบิกความของจำเลยขึ้นวินิจฉัย คำเบิกความของจำเลยจึงมิใช่ข้อสำคัญในคดีนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ศาลในคดีก่อนมิได้หยิบยกคำเบิกความของจำเลยขึ้นมาวินิจฉัย คงเป็นเพราะคำเบิกความของจำเลยมิได้แสดงให้เห็นว่าจำเลยรู้เห็นขณะเกิดเหตุเลย คำจำเลยจึงไม่เป็นประโยชน์แก่รูปคดีที่ศาลจะหยิบยกขึ้นมาวินิจฉัย เมื่อปรากฏว่าศาลทหารกรุงเทพ (ศาลจังหวัดสมุทรปราการ) ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 732/2523 โจทก์นำพยานเข้าสืบฟังได้ว่านางวรรณา สิงห์เพ็ชร ไม่เห็นหน้าจำเลยชัด และนายอนุทิน ศรีชัยสารกุล เห็นคนยิงเพียงลาง ๆ ว่าเป็นจำเลยเช่นนี้ หากจำเลยซึ่งเป็นพยานโจทก์คดีดังกล่าวเบิกความไปตามที่รู้เห็นดังที่ให้การชั้นสอบสวนตามเอกสารหมาย จ.1 แล้ว จำเลยย่อมเป็นพยานที่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์สนับสนุนคำนางวรรณาและนายอนุทินทำให้พยานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคงยิ่งขึ้นอันอาจทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไปในทางตรงข้ามได้ ดังนั้นคำเบิกความของจำเลยอันเป็นเท็จจึงเป็นข้อสำคัญในคดี
พิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น