คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 323/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตำรวจยิงผู้ร้ายในเวลาต่อสู้จะลงโทษตาม ม.249,63,53 ได้เพียงไร
(หมายเหตุ ในชั้นฎีกาไม่วินิจฉัยถึง)
ปัญหาที่มีมาตั้งแต่ศาลชั้นต้นแต่โจทก์ไม่อุทธรณ์ โจทก์จะยกขึ้นฎีกาไม่ได้
ประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม.212 ไม่ได้ห้ามมิให้ลดโทษแก่จำเลย
(หมายเหตุ คดีนี้เสนอประชุมใหญ่แล้ว ถอนโดยที่ประชุมท้วงว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อยจะฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้)

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า อ.จำเลยซึ่งเป็นพวกตำรวจไปคอยจับฝิ่นเถื่อน โจทก์เอาฝิ่นเถื่อนบันทุกรถยนตร์ผ่านที่จำเลย เมื่อรถหยุดแล้วจำเลยเข้าจับกุม โจทก์ไม่ยอมให้จับและต่อสู้ อ.จำเลยจึงเอาปืนยิงโจทก์ถูกหลังตรงซี่โครง จึงจับได้ ทั้ง ๒ ศาลพิพากษาว่าจำเลยใช้อำนาจในการจับกุมเป็นการเกินสมควรแก่เหตุ จึงพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ม.๒๔๙,๖๐ และ ๕๓ ศาลชั้นต้นวางโทษจำคุก ๒ ปี ศาลอุทธรณ์แก้วางโทษจำคุก ๑ ปี และให้รอการลงอาญา
แต่ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์นาย ๑ ทำ ความเห็นแย้งว่า เมื่อจำเลยมีผิดฐานพยายามฆ่าคนตาย ม.๒๔๙,๖๐ แล้วจะว่าเป็นการจับหรือยิงเพื่อจับตามวิธีพิจารณาความอาญา ม.๘๓ ไม่ได้ จึงนำกฎหมายอาญามาตรา ๕๓ มาใช้ไม่ได้
โจทก์ฎีกา ๑.อ้างข้อกฎหมายดังความเห็นแย้ง ๒.ว่าศาลอุทธรณ์ลดโทษจำเลยไม่เป็นการชอบด้วยประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.๒๑๒
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าในฎีกาข้อ ๑ นั้นโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ ฉะนั้นจะยกขึ้นคัดค้านในชั้นนี้ไม่ได้ ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม.๑๙๕,๒๒๕ ส่วนการลดโทษนั้นไม่ผิด ม.๒๑๒ เพราะ ม.๒๑๒ ห้ามมิให้พิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลยเท่านั้น จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share